บอกกล่าว เล่าเรื่อง ปฐมบท

…บอกกล่าว เล่าเรื่อง ปฐมบท…

…อายุพรรษาเพิ่มขึ้นทุกปี จากหลวงพี่เป็นหลวงน้า เป็นหลวงอา เป็นหลวงพ่อเป็นหลวงลุง หลวงปู่ สูงขึ้นทุกปีแต่อายุส่วนภูมิธรรมนั้นคงที่มีแต่ทรงไว้และเสื่อมไปของใหม่พัฒนาขึ้นช้ามากหากินอยู่กับของเก่าๆที่เคยได้มาทบทวนดูแล้วละอายแก่ใจ สูงขึ้นเร็วแต่วัย แต่ภายในพัฒนาช้ามากนับว่าเป็นโอกาสดีของเราที่หลุดออกจากจุดนั้นมาได้ มาใช้ชีวิตอย่างที่เราปรารถนา คืนมาสู่ความเป็นสามัญมีเวลาให้กับชีวิตจิตวิญญาณมากขึ้น ทำเพื่อคนอื่นมามากแล้วต่อไปเป็นการกระทำเพื่อตนเองบ้างไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เราต้องเอาตัวเราให้รอดเสียก่อน จึงจะไปช่วยคนอื่นเขา…

อ่านเพิ่มเติม “บอกกล่าว เล่าเรื่อง ปฐมบท”

คิดไป เขียนไป ปฐมบท

…คิดไป เขียนไป ปฐมบท…

…ปรับโลกเข้าหาธรรม เลือกเฟ้นธรรมที่เหมาะสมกับโลก นำมาใช้กับสิ่งที่กำลังคิดและกิจที่กำลังทำ ประยุกต์ใช้ให้เข้ากันกับปัจจุบันธรรมเพื่อความเจริญก้าวหน้าทั้งในทางโลกและทางธรรมแก่ตนเองและคนรอบกาย สิ่งที่คิดมันจึงไม่ใช่ความวุ่นวายฟุ้งซ่าน แต่เป็นการฝึกจิตให้รู้จักการระลึกนึกคิด รู้จักการพิจารณาเข้าหาเหตุและผล บนพื้นฐานของความเป็นจริง จากสิ่งที่กำลังเป็นอยู่รอบกายทั้งหลาย ที่กำลังดำเนินไป วิเคราะห์ไปยังสิ่งที่ยังไม่มาถึง และสรุปถึงสิ่งที่ได้ผ่านพ้นมาโดยใช้สติและปัญญาที่มีธรรมนั้นมานำความคิด เป็นการฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบันธรรม

อ่านเพิ่มเติม “คิดไป เขียนไป ปฐมบท”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๖

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๖…

…สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นอย่างใจคิด…

…ที่เห็น และเข้าใจ
อาจไม่ใช่ สิ่งที่คิด
เห็นถูก หรือเห็นผิด
ใครตัดสิน ในปัญหา

…ความรู้ ความเข้าใจ
ที่มันได้ เกิดขึ้นมา
โดยธรรม หรืออัตตา
หรือรู้เห็น ตามเป็นจริง

…ความรู้ และเข้าใจ
ที่มีใน สรรพสิ่ง
รู้จริง และเห็นจริง
เกิดจากเหตุ และปัจจัย

…สิ่งรู้ และสิ่งเห็น
สิ่งที่เป็น เกิดขึ้นใหม่
ถูกผิด เป็นอย่างไร
พิสูจน์ได้ โดยหลักธรรม

…ปรับจิต เข้าหาหลัก
โดยรู้จัก จดและจำ
ปรับใจ เข้าหาธรรม
ในการคิด และวิจารณ์

…สงเคราะห์ อนุเคราะห์
ให้มันเหมาะ กับเหตุการณ์
ธรรมะ จะประสาน
ไปในทิศ ทางเดียวกัน

…เป็นเหตุ เป็นปัจจัย
คล้อยตามไป สมานฉันท์
ไม่มี ขัดแย้งกัน
นั้นคือธรรม ที่ถูกทาง

…ปรับจิต เข้าหาธรรม
แล้วน้อมนำ ทุกสิ่งอย่าง
เทียบดู ในแนวทาง
จะรู้เห็น เป็นอย่างไร

…ธรรมะ ทุกหมวดหมู่
สงเคราะห์ดู ให้เข้าใจ
รู้เห็น เป็นเช่นไร
อนุเคราะห์ สงเคราะห์กัน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๔…

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๑๐๐

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๑๐๐…

…คนที่เขาคิดว่าตัวเขาเป็นปราชญ์ เป็นผู้ฉลาดในทางโลก มีความรู้ความสามารถเป็นครูบาอาจารย์ เป็นนักวิชาการทางโลกมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ เป็นทีรู้จักของคนทั่วไปนั้น เมื่อเข้าสู่ทางธรรมต้องถอดวางหัวโขนนั้นให้หมดเสียก่อนเพราะส่วนใหญ่นั้น เมื่อมาศึกษาธรรมะแล้วก็เป็นได้เพียงนักวิจารณ์ธรรมเพราะชื่อเสียงและศักดิ์ศรี อัตตานั้นมันมาบังอยู่ จึงทำให้ไม่รู้สภาวธรรมที่แท้จริง คนฉลาดกับคนมีปัญญานั้นแตกต่างกัน ภาษาโลกและภาษาธรรมนั้นความหมายต่างกัน ความฉลาดและมีปัญญาทางโลกนั้นวัดกันด้วยไอคิวสมอง แต่ความฉลาดและปัญญาในทางธรรมนั้น รู้กันที่ใครจะมีสติและสัมปชัญญะมากกว่ากัน

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๑๐๐”

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๑๐๐

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๑๐๐…

…พระพุทธพจน์…

…หยาดน้ำค้างบนยอดหญ้าเมื่ออาทิตย์ขึ้นมาย่อมแห้งหายไปโดยเร็ว ไม่ตั้งอยู่นาน ฉันใดชีวิตของมนุษย์ทั้งหลาย ก็เปรียบเหมือนหยาดน้ำค้างฉันนั้นชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายน้อยนิดหน่อย รวดเร็ว มีทุกข์มากมีความคับแค้นมาก พึงถูกต้องได้ด้วยปัญญา ควรกระทำกุศลควรประพฤติพรหมจรรย์เพราะสัตว์ที่เกิดมาแล้ว จะไม่ตายไม่มี…
…( อัง.สัตตก.๗๑ )…

…”ปริสัญญุตา ความเป็นผู้รู้จักชุมชน”…

…ฤดูกาลเข้าพรรษาหมดวาระผ่านพ้นไปมีภารกิจมากมายที่จะต้องคิดและต้องทำในหลายสถานที่ ซึ่งมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป จึงต้องทำความเข้าใจในชุมชนนั้นๆ เพื่อให้ภารกิจนั้นลุล่วงไปตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๑๐๐”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๕

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๕…

…หลากหลายกิจที่ทำก็เพื่อสงเคราะห์โลกและธรรม สิ่งเหล่านั้นไม่ผิดต่อธรรมวินัย เป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยกุศล สร้างคน สร้างงาน สร้างจิตสำนึก ประสานโลกและธรรมให้ก้าวเดินไปด้วยกัน

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๕”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๙

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๙…

…”กมฺมุนา วตฺตตีโลโก”…สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรมที่สุดของพรหมวิหาร ๔ ก็คือการวางอุเบกขาเพราะเราเมตตาสงสาร จึงเข้าไปสงเคราะห์ช่วยเหลือ ถ้าเขาดีขึ้นเราก็ยินดีด้วยกับเขาแต่ถ้าสงเคราะห์แล้ว ยังเหมือนเดิมหรือแย่ลงกว่าเดิมก็ต้องทำใจปล่อยวาง เพราะว่าเราทำหน้าที่ของเรานั้นสมบูรณ์แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นวิบากกรรมของเขาเองที่จะต้องได้รับ

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๙”

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๙

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๙…

… วันเวลาแห่งชีวิตลิขิตไปตามกฎแห่งกรรมสิ่งที่เราเคยได้กระทำมาในอดีตและปัจจุบันส่งผลมาสู่วันนี้ทั้งกรรมดีที่เป็นกุศลส่งผลให้พบสิ่งดีและกรรมที่เป็นอกุศลที่ส่งผลมาเป็นอุปสรรคปัญหา สิ่งที่ผ่านมาแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเพราะมันเป็นอดีตจงยืดอกยิ้มสู้ยอมรับในกฎแห่งกรรม…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๙”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๔

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๔…

…หลายหลากเรื่องราวที่ต้องพบเจอล้วนแล้วแต่กรรมนั้นนำพา ทั้งที่เป็นกุศลกรรม ซึ่งส่งผลในทางที่ดีหรืออกุศลกรรมที่ส่งผลในทางที่แย่แต่เมื่อยอมรับกับมันได้โดยไม่หวั่นไหวมันก็ไม่มีผลอะไรกับเรา…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๔”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๘

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๘…

…ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้อย่าเอาชีวิตไปยึดติดกับผู้ใดขอให้ศรัทธาในธรรมะที่เขากล่าวให้มากกว่าตัวของผู้กล่าวธรรมแล้วท่านจะไม่เสียใจเมื่อผู้กล่าวธรรมนั้นแปรเปลี่ยนไป

…จงให้ความสำคัญในธรรมของพระพุทธองค์ที่มีผู้นำมากล่าวมากกว่าตัวของผู้กล่าวธรรมจงเอาที่ธรรมะ อย่าไปเอาที่ตัวบุคคล แล้วจะทำให้ท่านไม่เสียใจหรือเสียความรู้สึกเมื่อผู้ที่กล่าวธรรมนั้นมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป …

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๙๘”