สิ่งที่มักจะพบเห็นและเป็นอย

…สิ่งที่มักจะพบเห็นและเป็นอยู่…

…ดัดจริตชน คือคนที่ชอบคิดไปเอง โดยที่ไม่รู้และเข้าใจในความเป็นจริง ยึดถือความคิดของตนเองเป็นใหญ่ เป็นพวกที่มีปมด้อยทางกายและจิต มองและคิดว่าคนอื่นนั้นชั่วร้ายไปหมด เป็นพวกคนโง่ที่ชอบอวดตนว่าฉลาด คนพวกนี้นับว่าแย่กว่าพวกโลกสวย เพราะพวกโลกสวยนั้นเป็นเพียงพวกที่ติดอยู่กับฝันและจินตนาการที่สวยงามไม่มีจิตอคติต่อคนรอบข้างและสังคม

…สิ่งที่เหมือนกันและคล้ายกันของเหล่าดัดจริตชนและพวกคนโลกสวยนั้นก็คือ โลกทัศน์และชีวทัศน์ที่คับแคบ ไม่เปิดกว้างมองและคิดทุกอย่างด้วยอัตตาของตนเอง

…จงอย่าไปให้ความสำคัญและหวั่นไหวกับเสียงของพวกเหล่านี้มากจนเกินไป เพราะพวกเหล่านี้ชอบเรียกร้องความสนใจ เป็นพวกที่มีปัญหาทางจิต ชอบสร้างปมเด่นเพื่อลบปมด้อยใต้จิตสำนึกของตนเอง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔…

ใคร่ครวญทบทวนธรรมย้ำเตือนตน

…ใคร่ครวญทบทวนธรรมย้ำเตือนตน…

…ชีวิตคือการเดินทางทุกก้าวย่างที่ผ่านมานั้นพบเจอปัญหาสาระพัน เก็บมันมาเป็นบทเรียน มันคือบทเรียนของชีวิตทั้งสิ่งที่ถูกและผิดที่ต้องเปลี่ยนเหมือนกับกงล้อของเกวียนที่หมุนเวียนสู่การเปลี่ยนแปลงเรียนรู้ธรรมะจากชีวิต เรียนรู้ถูกผิดทุกหนแห่ง ตามกำลังของสติที่มีแรงแสวงหาซึ่งสัจธรรม

…สัจธรรมในโลกคือพระไตรลักษณ์ ทุกอย่างอยู่บนหลักแห่งธรรมชาติที่ไม่อาจจะหลีกหนีไม่พ้น ต่างก็เวียนว่ายอยู่ในวังวนรอวันหลุดพ้นจากโลกมายาเพื่อกลับมาสู่จิตแท้จิตเดิมไม่เสริมปรุงแต่งแสวงหาคือความสิ้นสุดของกิเลสและอัตตาหมดสิ้นตัณหากามารมณ์ชื่นชมด่ำดื่มอยู่กับรสพระธรรมหมดเวรหมดกรรมจากที่เคยทำมานั้นคือสิ่งที่มุ่งหวังและแสวงหารอวันเวลาที่จะได้พบพาน

…ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวสอนไว้ว่าความโมโหจะนำไปสู่ความตกต่ำอย่าไปโมโห โกรธผู้อื่น เพราะว่าความโกรธคือไฟ ซึ่งมันจะเผาไหม้เจ้าของเอง ถ้าเขาทำตัวไม่ดี มันก็เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเราการที่เราไปโกรธเขา โมโหเขาจึงเท่ากับเราไปแบกรับเอาทุกข์เอากิเลสของเขามา…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๗ มีนาคม ๒๕๖๔…

กล่าวธรรมคำกวีร้อยเรื่องราว

…กล่าวธรรมคำกวีร้อยเรื่องราว…

…ร้อยเดือน ร้อยดวงดาว
ร้อยเรื่องราว มาเล่าขาน
บอกเล่า มายาวนาน
บนเส้นทาง ที่ผ่านมา

…สอดแทรก ซึ่งธรรมะ
เป็นสาระ ให้ศึกษา
แนวทาง ภาวนา
ให้เจริญ ในทางธรรม

…ทางธรรม นำชีวิต
ชี้ถูกผิด มีแบบนำ
บำเพ็ญ กุศลกรรม
มีแบบอย่าง นั้นนำทาง

อ่านเพิ่มเติม “กล่าวธรรมคำกวีร้อยเรื่องราว”

สาระกวีธรรมลำนำชีวิต

…สาระกวีธรรมลำนำชีวิต…

…แสงทอง คือแสงธรรม
ที่ชี้นำ สู่เส้นทาง
ส่องโลก ให้สว่าง
ให้ได้เห็น ความเป็นจริง

…ทางโลก นั้นมืดมิด
เพราะว่าจิต ไม่หยุดนิ่ง
วุ่นวาย เพราะหลายสิ่ง
โลกธรรม ชักนำไป

…รักโลภ และโกรธหลง
ใจพะวง ยึดถือไว้
เกิดทุกข์ ระทมใจ
ต้องเวียนว่าย ในวังวน

อ่านเพิ่มเติม “สาระกวีธรรมลำนำชีวิต”

บนเส้นทางแห่งโลกและธรรม

…บนเส้นทางแห่งโลกและธรรม…

…กว่าจะถึง วันนี้ ของชีวิต
เคยพลาดผิด มากมาย มาหลายครั้ง
หลงเพลินไป ด้วยใจ ไม่ระวัง
จึงพลาดพลั้ง สร้างกรรม ทำบาปมา

…เดินเข้าสู่ วังวน ของคนบาป
จิตนั้นหยาบ มัวเมา ในตัณหา
ได้ก่อกรรม ทำเวร หลายครั้งครา
ก็เพราะว่า ไร้ศีลธรรม ประจำใจ

อ่านเพิ่มเติม “บนเส้นทางแห่งโลกและธรรม”

ใคร่ครวญทบทวนธรรมไปตามกาล

…ใคร่ครวญทบทวนธรรมไปตามกาล…

….ที่ผ่านมานั้น ชีวิตในแต่ละวันต้องพบปะและสื่อสารกันกับผู้คนมากมาย แม้จะหลบหลีกมาอยู่ในที่ที่ห่างไกลจากชุมชนนั้นแล้วก็ตาม ก็ยังมีคนพยายามที่จะไปมาหาสู่ขึ้นมาเยี่ยมเยือนพบปะพูดคุยที่อยู่ห่างไกล ก็ใช้การสื่อสารสมัยใหม่ในยุคไอทีเพื่อที่จะได้พูดคุยกัน

…วิถีโลกและวิถีธรรมจึงต้องดำเนินไปคู่กัน จึงเอาปัจจุบันธรรมมาพิจารณาเป็นอารมณ์กรรมฐานพิจารณาสิ่งทั้งหลายที่ได้เห็นให้เป็นธรรมะ พิจารณาให้เห็นถึงคุณและโทษ ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ในสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นพิจารณาลงไปในอริยสัจ ๔ ให้เห็นถึงปัญหา เห็นที่มา เห็นการตั้งอยู่เห็นที่ดับและทางไป อันได้แก่ ทุกข์สมุทัย นิโรธ มรรค โดยใช้หลักของพระไตรลักษณ์มาเป็นพื้นฐาน

…เห็นความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พิจารณาให้เห็นและเข้าใจจนเกิดความเบื่อหน่ายจางคลายในทิฏฐิมานะ อัตตา ตัณหา และอุปาทาน เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของโลกธรรมทั้ง ๘ จนจิตจางคลายไม่เข้ายึดถือในสิ่งนั้นวางจิตนั้นให้เป็นกลาง มองทุกอย่างให้เป็นธรรมะ แล้วจะเกิดการลดละด้วยตัวของมันเอง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๓ มีนาคม ๒๕๖๔…

กว่าจะถึงวันนี้ของชีวิต

…กว่าจะถึงวันนี้ของชีวิต…

…ไร้ซึ่งรูปแบบ แต่ไม่ไร้ซึ่งสาระธรรมะ คือสิ่งที่อยู่ภายใน สัมผัสได้โดยคุณธรรมที่แผ่ออกมา ที่สุดของกระบวนท่า คือการไร้ซึ่งกระบวนท่า ที่สุดของอาวุธ คือการไม่มีอาวุธ ที่สุดของกระบี่ คือการไร้ซึ่งกระบี่เพราะกระบี่นั้นอยู่ที่ใจ ที่สุดของรูปแบบ คือการไร้ซึ่งรูปแบบ เพราะรูปแบบนั้นอยู่ที่ใจ แต่กว่าจะถึงซึ่งจุดนั้นได้ ก็ต้องเริ่มต้นมาจากพื้นฐานการมีรูปแบบมาทั้งสิ้น…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๑ มีนาคม ๒๕๖๔…

กวีลำนำยามค่ำคืน

…กวีลำนำยามค่ำคืน…

๐ ใคร่ครวญ ทบทวนธรรม
เตือนความจำ ไว้ในจิต
แยกแยะ ความถูกผิด
ระลึกรู้ อยู่แก่ใจ

๐ สติ ระลึกรู้
เฝ้าตามดู อยู่ภายใน
รู้เห็น ความเป็นไป
การเกิดดับ ของอารมณ์

๐ ผัสสะ สิ่งกระทบ
ที่ค้นพบ ประสานสม
เผลอใจ ไปชื่นชม
จิตปรุงแต่ง และคล้อยตาม

อ่านเพิ่มเติม “กวีลำนำยามค่ำคืน”

วิถีแห่งความเป็นสมณะไร้นาม

…วิถีแห่งความเป็นสมณะไร้นาม…

…ไม่สร้างภาพเพื่อให้เขาศรัทธาอยู่กับความเป็นจริง ตัวตนที่แท้จริงของเรา ใครจะเชื่อใครจะศรัทธาหรือไม่ศรัทธา มันเป็นเรื่องของเขาไม่ไปกังวล เรารู้ในสิ่งที่เราคิดเรารู้ในสิ่งที่เราทำและรู้ถึงผลของการกระทำ มันก็จะทำให้เราไม่ทุกข์ เพราะถ้าเรานั้นสร้างภาพให้ดูว่าเป็นผู้มีจริยวัตรที่งดงามเพื่อให้ญาติโยมศรัทธา มันก็ตั้งอยู่ได้ไม่นาน วันหนึ่งตัวตนที่แท้จริงมันเปิดเผยออกมา ศรัทธาทั้งหลายก็จะหมดไป เพราะสิ่งที่ซ่อนไว้นั้นได้ถูกเปิดเผย จงเป็นตัวของตัวเอง ความเสมอต้นเสมอปลายในการใช้ชีวิต ในการประพฤติปฏิบัติ… “กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คนค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” …

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๙ มีนาคม ๒๕๖๔…

รำพึงให้ฟังหลังการเดินทาง

…รำพึงให้ฟังหลังการเดินทาง…

…มีคำถามที่เจอบ่อยคือ “เป็นเจ้าอาวาสวัดไหน ได้พระครูแล้วหรือยัง” ก็ได้ตอบคำถามนั้นไปว่า เป็นพระธรรมดาไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์อะไร เพราะต้องการความเป็นอิสระ ไม่อยากผูกมัดตนเองกับตำแหน่งและสถานที่ ไม่มีคุณสมบัติตามกฎระเบียบของคณะสงฆ์ที่จะรับเป็นเจ้าอาวาสหรือรับตำแหน่งใด ๆ ได้

…ไม่ใช่พระเกจิอาจารย์ที่เข้มขลัง ไม่ใช่พระนักพัฒนา ไม่ใช่พระนักเทศน์เผยแผ่ธรรม เป็นเพียงสมณะไร้นาม ใช้ชีวิตสมณะอย่างเรียบง่าย ไร้รูปแบบ ไม่สร้างภาพเพื่อให้เขาศรัทธา อยู่กับความเป็นจริง ตัวตนที่แท้จริง

…ส่วนใครจะเชื่อ ใครจะศรัทธาหรือไม่ศรัทธานั้น มันเป็นเรื่องของเขาไม่ไปกังวล เรารู้ในสิ่งที่เราคิด เรารู้ในสิ่งที่เราทำและรู้ถึงจุดมุ่งหมายของการกระทำซึ่งมันทำให้ใจเรานั้นไม่ทุกข์

…เพราะถ้าเรานั้นสร้างภาพให้ดูว่าเป็นผู้มีจริยาวัตรที่งดงามเพื่อให้ญาติโยมศรัทธา มันก็ตั้งอยู่ได้ไม่นาน วันหนึ่งตัวตนที่แท้จริงมันเปิดเผยออกมา แล้วความศรัทธาทั้งหลายก็จะหมดไป เพราะสิ่งที่ซ่อนไว้นั้นได้ถูกเปิดเผย

…เป็นตัวของตัวเองและมีความเสมอต้นเสมอปลายในการใช้ชีวิตในการประพฤติปฏิบัติ “กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คน คุณค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน” …

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๘ มีนาคม ๒๕๖๔…