คิดไป เขียนไป บทที่ ๓

…คิดไป เขียนไป บทที่ ๓…

…วันเวลาแห่งชีวิตลิขิตไปตามกฎแห่งกรรมสิ่งที่เราเคยได้กระทำมาในอดีตและปัจจุบันส่งผลมาสู่วันนี้ทั้งกรรมดีที่เป็นกุศลส่งผลให้พบสิ่งดีและกรรมที่เป็นอกุศลที่ส่งผลมาเป็นอุปสรรคปัญหา สิ่งที่ผ่านมานั้น แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เพราะมันเป็นอดีต จงยืดอกยิ้มสู้ยอมรับในกฎแห่งกรรมที่ทำมา…

…อดีตคือบทเรียนของชีวิตถูกหรือผิดล้วนแล้วคือบทเรียนทบทวนใคร่ครวญพิจารณาในสิ่งที่ผ่านมาให้เห็นที่มาและความเป็นไปในชีวิตเพื่อที่จะกำหนดทิศทางใหม่ที่จะก้าวเดินโดยเอาอดีตนั้นมาเป็นบทเรียน…

…ชีวิตนั้นเป็นของอันน้อยนิดชีวิตแขวนอยู่ฝากไว้กับลมหายใจลมหายใจสิ้นไปหมดไปเมื่อไหร่ภพนี้ชาตินี้ก็จบสิ้นไป…แสวงหาภพใหม่เวียนว่ายในภพในชาติไม่มีที่สิ้นสุดตราบใดที่ยังไม่หลุดพ้นจากบ่วงแห่งมาร

…ปรารถนาซึ่งความพ้นทุกข์หวังเสวยสุขในวิมุติธรรมตามองค์พระสัมมาฯแต่ถ้าเพียงปรารถนาแต่ยังไม่ลงมือกระทำมันจึงเป็นเพียงความฝันเป็นเพียงจินตนาการวันเวลานั้นผ่านไปไม่เคยหยุดนิ่งหยุดพักทุกขณะจิตกำลังเดินทางไปสู่ความตายสิ่งที่ท่านมุ่งหมาย…ท่านได้ทำแล้วหรือยัง..?

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๕…