บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๕

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๕…

…ค้นพบบันทึกเล่มเก่าที่เขียนไว้เมื่อ ๒๓ ปีที่แล้ว มีเรื่องราวมากมายที่ได้เขียนบันทึกไว้ในสมุดเล่มนั้นเปิดอ่านที่ละหน้าแล้ว พิจารณาย้อนกลับไปในอดีตเรื่องราวที่บันทึกไว้นั้น ได้บอกอะไรแก่เรา ได้มากมายสิ่งที่บันทึกไว้นั้นเป็นเครื่องเตือนความทรงจำแก่ตัวเราจุดหมายปลายทางของชีวิตและทิศทางที่จะต้องเดินไป…

…บันทึกบทหนึ่งของชีวิต…

…ชีวิตคือการเดินทาง
เพื่อสร้างกุศลกรรม สั่งสมบารมี
ด้วยจิตสำนึกแห่งคุณธรรม
ปรารถนาไปถึงซึ่งความพ้นทุกข์
ฝันไว้ไกลและต้องไปให้ถึง
ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติก็ตาม
จะพยายามก้าวไปข้างหน้าไม่หยุด
สั่งสมอบรมอินทรีย์สร้างบารมีต่อไป
ฝันที่ตั้งไว้คงไม่ไกลเกินความจริง…

…เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต…

…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร…
๑๘ ก.พ.๔๑ วัดเก่าเจริญธรรม กระโสม พังงา

…พิจารณาย้อนกลับไปถึงในวันนั้น เทียบเคียงกับปัจจุบันในวันนี้ สิ่งที่ตั้งใจไว้ เราได้ทำตามความมุ่งหวังแล้วรึยัง ก้าวหน้าหรือว่าถอยหลัง เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔…

กระแสธรรมที่พัดผ่านกาลเวลา

…กระแสธรรมที่พัดผ่านกาลเวลา…

…ที่ผ่านมาเราไปยึดถือสิ่งที่ไร้สาระเอามาเป็นสาระ ทำให้เสียเวลาในการปฏิบัติธรรม การพัฒนาทางจิตเลยไม่ก้าวหน้า เพราะมัวแต่เสียเวลาอยู่กับสิ่งไร้สาระ ตามกระแสของโลกซึ่งเมือได้ทบทวนพิจารณาดูแล้วจึงได้รู้ว่าเราประมาทในชีวิต

…การปฏิบัติธรรมนั้นเป็นไปเพื่อออกจากกระแสโลก คือให้หลุดออกจากโลกธรรม ๘ ซึ่งเป็นกระแสโลกอันได้แก่สุข-ทุกข์ลาภ-เสื่อมลาภ…ยศ-เสื่อมยศ

อ่านเพิ่มเติม “กระแสธรรมที่พัดผ่านกาลเวลา”

กระแสธรรมแห่งกาลเวลา

…กระแสธรรมแห่งกาลเวลา…

… แกล้งโง่บางโอกาส อย่าทำตัวฉลาดตลอดไป โง่ไม่เป็น เป็นใหญ่ยากแกล้งโง่และแกล้งบ้าเพื่อศึกษาพฤติกรรมและความคิดของคนรอบข้าง แล้วเราจะรู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเราหรือว่าเขามีความคิดอย่างไรในเรื่องเหล่านั้น ที่กำลังกระทำอยู่ ให้เขามีส่วนในการเสนอความคิด อย่าไปปิดกั้นความคิดของเขา โดยเอาความคิดของเรามาเป็นตัวตัดสิน เพื่อให้เขามีความรู้สึกภาคภูมิใจในสิ่งที่กำลังเป็นไปเพราะว่าเขานั้นได้มีส่วนร่วมในงานนั้น…

อ่านเพิ่มเติม “กระแสธรรมแห่งกาลเวลา”

จิตระลึกถึงธรรมตามกาลเวลา

…จิตระลึกถึงธรรมตามกาลเวลา…

…แต่ละวันที่ผ่านไป มีเรื่องราวมากมายผ่านเข้ามาในชีวิต ให้เราคิดและเราทำจดจำเพียงสิ่งที่เป็นสาระ สิ่งที่เป็นขยะทางความคิดลบมันไปไม่จดจำ ใช้สติใคร่ครวญ ทบทวนในสิ่งผ่านเข้ามาว่าสิ่งไหนเป็นสาระ สิ่งไหนไม่เป็นสาระพิจารณาให้เห็นคุณเห็นโทษ เห็นประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ของเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาพิจารณาเข้าสู่ความเป็นกุศลและอกุศลมีสติเตือนตนให้อยู่ในความไม่ประมาทไม่ปรุงแต่งในอกุศล ประคองจิตของตนให้อยู่ในธรรม น้อมนำจิตเข้าสู่ความสงบนิ่งแล้วมองทุกสิ่งให้เป็นธรรมะ…

อ่านเพิ่มเติม “จิตระลึกถึงธรรมตามกาลเวลา”

บ้านและวัด โลกและธรรม

…บ้านและวัด โลกและธรรม…

๐ ยกบทกลอน ก่อนเก่า มาเล่าอ้าง
เป็นแบบอย่าง ให้คิด และศึกษา
คนโบราณ รุ่นเก่า ท่านเขียนมา
มีคุณค่า ควรคิด ให้เข้าใจ

๐ วัดจะยืนยง คงอยู่ คู่กับบ้าน
ก็ด้วยการ พัฒนา หาหยุดไม่
วัดโรยร้าง เพราะห่าง ความร่วมใจ
เชิญชวนไป ช่วยวัด พัฒนา

๐ วัดจะร้าง โรยรา ถ้าถูกร้าง
จะอ้างว้าง ร้างโรย ให้โหยหา
เกิดทุกข์ภัย ไร้ศีล สิ้นเมตตา
ทั้งโลกา พากันทุกข์ ไม่สุขเลย

๐ วัดไม่ร้าง ช่วยกันสร้าง อย่าร้างวัด
ช่วยเร่งรัด พัฒนา อย่าอยู่เฉย
คอยสอดส่อง ดูแล อย่าละเลย
อย่าเมินเฉย ช่วยวัด พัฒนา

๐ วัดจะดี มิใช่ดี ที่โบสถ์สวย
หรือร่ำรวย ด้วยทรัพย์ แสวงหา
วัดจะดี เพราะพระเณร มีศรัทธา
ภาวนา รักษาศีล เคร่งวินัย

๐ วัดจะดี มีหลักฐาน ชาวบ้านช่วย
บ้านจะสวย ก็เพราะวัด ดัดนิสัย
บ้านกับวัด ผลักกันช่วย จึงอวยชัย
หากขัดกัน ก็บรรลัย ทั้งสองทาง

๐ คือบทกลอน สอนใจ ให้ครวญคิด
ให้พินิจ เอามา เป็นแบบอย่าง
ช่วยให้วัด พัฒนา อย่าลาร้าง
ช่วยกันสร้าง ช่วยกันทำ นำสิ่งดี

๐ ความร่วมมือ ร่วมแรง และร่วมใจ
จะทำให้ สำเร็จ เสร็จทุกที่
ชุมชนใด มีความรัก สามัคคี
ก็จะมี ชื่อเสียง ขจรไกล

๐ ต้องช่วยกัน ประสาน บ้านและวัด
อย่าให้ขัด จงช่วย กันแก้ไข
โลกและธรรม บ้านกับวัด คู่กันไป
จงร่วมใจ ร่วมทำ ในกรรมดี…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๕…

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓๕

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓๕…

…ทุกชีวิตย่อมประสพกับอุปสรรคปัญหาด้วยกันทุกคน มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังบุญกุศลของแต่ละคนที่ทำมา ไม่มีใครที่จะหนีพ้นอุปสรรคปัญหาไปได้ แต่ในอุปสรรคปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นย่อมที่จะมีทางแก้ไขได้ในทุกปัญหาถ้าหากใช้สติปัญญา ความรู้สึกนึกคิดและจิตที่เป็นกลาง ไม่เข้าข้างความคิดที่ติดอยู่กับผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๓๕”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๔

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๔…

…เมื่อใจเราอยู่กับธรรม
ธรรมนั้นก็อยู่กับเรา
เมื่อเรารักษาธรรม
ธรรมนั้นจะรักษาเรา
ธรรมะคือตัวเรา ตัวเราคือธรรมะ
เพราะธรรมะนั้นคือธรรมชาติ
ที่เป็นจริงของสรรพสิ่งในโลกนี้…

๐ ยกข้อธรรม นำมา สาธยาย
สื่อความหมาย แห่งธรรม นำวิถี
ให้ใคร่ครวญ ทวนทบ พบสิ่งดี
บทกวี ชี้ทาง ห่างอบาย

๐ ทุกถ้อยคำ เน้นย้ำ เรื่องสติ
สมาธิ ตั้งมั่น มีจุดหมาย
มีสติ คุ้มครอง รองรับกาย
เดินตามสาย เส้นทาง อย่างมั่นคง

๐ ดำรงตน อยู่ใน ศีลธรรม
ไม่ก่อกรรม ทำชั่ว ด้วยมัวหลง
ซึ่งกิเลส ตัณหา พาพะวง
ให้ต่ำลง สู่อบาย ตายทั้งเป็น

๐ ยกจิตสู่ กุศล เป็นผลดี
ฝึกให้มี หิริ ระลึกเห็น
โอตตัปปะ คุ้มครอง ให้ร่มเย็น
มองให้เห็น ดีชั่ว กลัวบาปกรรม

๐ ปลุกสำนึก ความคิด จิตมนุษย์
เป็นชาวพุทธ ไม่ควร จะใฝ่ต่ำ
จงอย่าให้ กิเลส มาครอบงำ
ศึกษาธรรม นำทาง สว่างใจ

๐ รู้จักความ พอดี เป็นที่ตั้ง
ควรระวัง ความโลภ อย่าหลงใหล
ให้อยู่ดี มีสุข ไม่ทุกข์ใจ
อย่าอยากได้ เกินไป ให้ทุกข์ทน

๐ เมื่อมีน้อย ใช้น้อย คอยประหยัด
เราควรจัด บริหาร ให้เกิดผล
อย่าใช้เกิน กำลัง ระวังตน
เกิดเป็นคน ควรรู้การ ประมาณตน…

…ฝากไว้เป็นข้อคิดเพื่อเตือนจิตสะกิดใจ…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔…

อุทานธรรมในยามรุ่งอรุณ

…อุทานธรรมในยามรุ่งอรุณ…

…การปฏิบัติธรรมในบวรพระพุทธศาสนาทั้งสมถะและวิปัสสนากรรมฐานเราต้องละปลิโพธความกังวลห่วงใยในทุกสิ่งทุกอย่างวางจากภาระพันธะทั้งปวง ต้องมีใจเป็นอิสระเป็นการปฏิบัติที่จะต้องห่างไกลจากหมู่คณะเพราะเป็นทางเดียว ทำคนเดียวสำเร็จคนเดียวแม้พระศาสดาและผู้เป็นกัลยาณมิตร ตลอดจนผู้อุปถัมภ์ ผู้ให้ความสนับสนุนทั้งหลายนั้น ก็เป็นเพียงผู้ชี้ทางและบำรุงส่งเสริมเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม “อุทานธรรมในยามรุ่งอรุณ”

เมื่อจิตระลึกถึงธรรมในยามรุ่งอรุณ

…เมื่อจิตระลึกถึงธรรมในยามรุ่งอรุณ…

…หลักธรรมนั้นมีทั้งโลกียะและโลกุตระธรรมะสำหรับผู้ครองเรือนและบรรพชิตฉะนั้นเราต้องนำเสนอให้เหมาะสมกับบุคคลอย่าเอาธรรมะสำหรับบรรพชิตนักบวชไปยัดเยียดให้ฆราวาสผู้ครองเรือนเขาปฏิบัติเพราะมันจะขัดกับวิถีชีวิตประจำวันและการดำเนินชีวิตของเขา เราต้องรู้จักความพอดีและเหมาะสม จังหวะเวลา โอกาส สถานที่และบุคคล ว่าสมควรจะใช้วิธีไหนและทำอย่างไร เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งจะทำให้การนำเสนอธรรมนั้นจะเป็นไปด้วยดีและมีผู้ปฏิบัติตาม มีความเจริญงอกงามในธรรม โดยที่เขานั้นไม่รู้ตัว…

…ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ท่านทั้งหลายตามเหตุและปัจจัยที่ท่านทั้งหลายได้กระทำบำเพ็ญมา…

อ่านเพิ่มเติม “เมื่อจิตระลึกถึงธรรมในยามรุ่งอรุณ”

ทบทวนใคร่ครวญธรรมคำกวี

…ทบทวนใคร่ครวญธรรมคำกวี…

…ผู้เจริญย่อมไม่เบียดเบียนใครไม่อาฆาตใคร ไม่พยาบาทใครให้อภัยแก่คนทุกจำพวก เจริญเมตตาจิต เป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั้งหลาย ไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร ใจพร้อมที่จะให้อภัยอยู่เสมอ วางใจได้อย่างนี้ ใจเราก็จะมีแต่ความสุข ไม่มีความทุกข์เพราะการให้อภัย…

อ่านเพิ่มเติม “ทบทวนใคร่ครวญธรรมคำกวี”