…เมื่อน้ำนั้นนิ่งใส ก็จะเห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้นชัดเจน ถ้าน้ำนั้นยังกระเพื่อมอยู่ก็เห็นได้ไม่ชัดเจนเปรียบกับจิตที่เป็นหนึ่ง หยุดนิ่งย่อมรู้หมด มีอะไรรู้หมด เห็นกายเห็นจิตของตนเองได้แล้ว ก็ย่อมจะรู้และเข้าใจในกายและจิตของผู้อื่นเช่นกัน”…
อ่านเพิ่มเติม “เมื่อน้ำนั้นนิ่งใส”บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๒
…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๒…
…เดินไปในเส้นทางธรรม พยายามที่จะดำเนินชีวิตไปตามพระธรรม เดินตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์เท่าที่จะทำได้ ตามสติปัญญาและบุญกุศลของเรา ไม่ใช่เป็นการเห็นแก่ตัวแต่เราต้องเอาตัวของเราให้รอดเสียก่อน ก่อนที่เราจะไปช่วยผู้อื่นก่อนที่จะไปสอน ไปแนะนำผู้อื่นต้องรู้ ต้องเข้าใจและทำได้ ให้รู้จริงเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการแนะนำสั่งสอนเขา ต้องฝึกหัดปฏิบัติที่ตัวเรา ให้เกิดความกระจ่างชัดในสภาวธรรมทั้งหลายทำความรู้ความเข้าใจของเรานั้น ให้ถูกต้องสอดคล้องในหลักธรรม ก่อนจะนำไปเผยแผ่แก่คนทั้งหลาย…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๓ กันยายน ๒๕๖๔…
ธรรมะนั้นมีอยู่ทุกที่และทุกเวลา
…ธรรมะนั้นมีอยู่ทุกที่และทุกเวลาเกิดขึ้นอยู่เสมอ ผู้มีปัญญาย่อมน้อมเข้ามาสู่ตนเอง คือน้อมเข้ามาพิจารณาในตัวเอง เมื่อพิจารณามากเข้าก็จะถึงซึ่งความเป็นปัจจัตตัง คือสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน ทำเองเห็นเองและรู้เองในสิ่งที่ทำ…
อ่านเพิ่มเติม “ธรรมะนั้นมีอยู่ทุกที่และทุกเวลา”บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๑
…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๑…
…ใช้เวลาส่วนใหญ่ในตอนกลางวันนั้นจะใช้ไปในการคิดพิจารณา สงเคราะห์ให้คำแนะนำในการทำงาน บริหารคนบริหารงาน ประสานให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาและอุปสรรค์โดยใช้หลักการคิด วิเคราะห์และวางแผนการทำงานไว้ล่วงหน้า มองงานทุกอย่างให้ละเอียดให้ชัดแจ้งในองค์ประกอบของงาน ว่ามีกระบวนการในการกระทำเป็นอย่างไร ใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง ต้องใช้แรงงานมากน้อยขนาดไหน ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้มีอะไรบ้าง ซึ่งเราต้องคิดและวางแผนไว้ล่วงหน้า
…ให้คำแนะนำก่อนที่เขาเหล่านั้นจะลงมือทำงานทุกครั้งคิดทีละเรื่อง ทีละอย่าง ให้มันจบเป็นเรื่อง ๆ ไป แล้วบันทึกไว้ในส่วนของความจำ คือมองภาพกว้าง ๆ แล้วมาแยกแยะออกเป็นอย่าง ๆ เป็นเรื่อง ๆ ไป โดยให้ความสำคัญที่เหตุและปัจจัย ว่าอะไรควรทำก่อนและทำที่หลัง ทำในสิ่งที่คิดและทำได้ในทันที เพราะมีเหตุและปัจจัยที่พร้อม เวลา โอกาส สภาพดินฟ้าอากาศและความพร้อมของบุคคลากร
…ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเหตุและปัจจัยซึ่งเราได้วางแผนงานไว้และมีแนวทางของการแก้ไข้ไว้ล่วงหน้า ถ้าเกิดมีอุปสรรค์และปัญหาขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากการฝึกคิด ฝึกพิจารณาโดยการมีสติสัมปชัญญะและสมาธิเป็นพื้นฐาน คือการทำจิตให้นิ่งแล้วจะมองเห็นทุกสิ่งอย่างละเอียดและชัดเจน ทุกอย่างสามารถที่จะฝึกฝนกันได้ ไม่ได้ยากอย่างที่คิดขอเพียงเราเริ่มต้นและลงมือทำ…
…แด่การพิจารณาฝึกฝนหาเหตุและผลของสรรพสิ่งรอบกาย…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔…
ระลึกธรรม ถึงคำสอนของครูบาอาจารย์
…ไม่ต้องค้นหา ไม่ต้องแสวงหา เพราะว่าของที่ค้นหาหรือแสวงหานั้น พระพุทธเจ้าได้แสวงหาและค้นหาจนพบแล้วและได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนไม่มีการซ่อนเร้นหรือปิดบังหน้าที่ของเราคือการทำความเข้าใจและยอมรับในสิ่งนั้นแล้วเดินตามทางที่พระองค์ได้ชี้แนะไว้
อ่านเพิ่มเติม “ระลึกธรรม ถึงคำสอนของครูบาอาจารย์”บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๑
…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๑…
…เมื่อหยุดคิดปรุงแต่งและวางทุกสิ่งลงได้ ทั้งสิ่งที่รู้และสิ่งที่ถูกรู้ทั้งปวงสัจธรรมความจริงแท้ก็จะปรากฏขึ้นมาให้รู้เอง เพราะในความโปร่งในความว่างในความนิ่งจะมองเห็นทุกสิ่งอย่างชัดเจนชัดเจน
อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๑”การรักษาศีล
…การรักษาศีลนั้น เราอย่าไปยึดติดกับถ้อยคำและตัวอักษรให้มากเกินไปมันอยู่ที่ใจของเรา เพราะว่าการรักษาศีลนั้น คือการมีสติและสัมปชัญญะอยู่กับกายและใจของเรา (ภาษาชาวบ้านเรียกว่าใจอยู่กับกับเนื้อกับตัว) รู้ว่าเรากำลังทำอะไรและสิ่งที่เราทำนั้นเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล
…ถ้าเป็นอกุศลก็ไม่ควรกระทำ ควรงดเว้นการที่เราหักห้ามใจในอกุศลได้นั้นทำให้เกิดคุณธรรม คือหิริและโอตตัปปะ (ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป) ศีลจะสมบูรณ์ได้นั้น ต้องประกอบด้วยคุณธรรม คือมีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป มีสติและสัมปชัญญะที่สมบูรณ์
อ่านเพิ่มเติม “การรักษาศีล”บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๐
…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๐…
…อดีตที่ผ่านมานั้น คือบทเรียนของชีวิตมีทั้งการลองผิดและลองถูกสลับกันไป ความผิดพลาดทั้งหลายที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่ความล้มเหลว แต่มันเป็นประสบการณ์ของชีวิตและเป็นการเรียนรู้กับชีวิต ไม่ยึดติดฝังใจอยู่กับความผิดพลาดที่ผ่านมา นำสิ่งนั้นมาเป็นแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆทำให้ดีกว่าเมื่อครั้งที่ผ่านมาชีวิตนั้นต้องเดินไปข้างหน้า สิ่งที่ผ่านมาทั้งหลายมันคือประสบการณ์ของชีวิต…
…มัวแต่มอง จ้องผิด คนอื่นเขา
กิเลสเรา เป็นอย่างไร ไม่เคยคิด
ไม่ถูกใจ ก็บอก ว่ามันผิด
ไม่เคยคิด มองหา กิเลสตน
…ถ้าถูกใจ ก็ชอบ บอกว่าใช่
ไม่ถูกใจ ก็ไร้ ซึ่งเหตุผล
มีข้ออ้าง มาแก้ ดีใส่ตน
ปัดชั่วพ้น จากตัว เพราะกลัวภัย
ใคร่ครวญธรรมยามใกล้รุ่งอรุณ
…ใคร่ครวญธรรมยามใกล้รุ่งอรุณ…
…ในการตอบปัญหาธรรมะหรือเขียนบทความ บทกวีธรรมะนั้นคือการทบทวนในธรรมที่ได้เคยปฏิบัติมา ไม่ใช่ภาระ ไม่ใช่หน้าที่แต่เป็นการฝึกหัดปฏิบัติตนเพราะในบางครั้งเรานั้นอาจจะไม่ได้ทบทวนในข้อธรรมนั้นๆแต่เมื่อมีผู้มาถาม มันจะเป็นการกระตุ้นเตือนให้เรานั้นได้คิดและพิจารณาในธรรมข้อนั้น ๆ ซึ่งเป็นการฟื้นความทรงจำให้แก่ตัวเราเอง…
อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมยามใกล้รุ่งอรุณ”ความบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์
“ความบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน คนอื่นจะทำให้คนอื่นบริสุทธิ์ไม่ได้”
“สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ
นาญฺโญ อญฺญํ วิโสธเย ”
…พุทธสุภาษิต ธรรมบท ๒๕/๓๑…
…การเจริญจิตภาวนานั้นเป็นการกระทำที่จิตก็จริงอยู่ แต่จิตต้องอยู่กับกาย มีความสัมพันธ์กันจิตระลึกรู้อยู่ในกาย ไม่ส่งจิตออกนอกกาย อันเป็นเหตุนำมาซึ่งทุกข์ทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นเพราะจิตส่งออก
…ในความไร้รูปแบบนั้น คือความเป็นไปตามความเหมาะสม ตามจังหวะเวลา โอกาส สถานที่และบุคคลการเลือกหาวิธีการที่เหมาะสมที่จะกระทำได้ในขณะนั้น นำมาประพฤติปฏิบัติเพื่อไม่ให้ขัดทั้งในทางโลกและในทางธรรมดำเนินไปในความเป็นปกติ
อ่านเพิ่มเติม “ความบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์”