บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๗

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๗…

…เมื่อใจนั้นยอมรับซึ่งความเป็นจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ว่าเรานั้นเป็นผู้กระทำสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นผลแห่งวิบากกรรม ที่เรานั้นได้เคยกระทำมา ไม่โทษดินโทษฟ้าหาผู้รับผิดมาแทนเรา ใจนั้นก็จะโปร่ง โล่ง เบา เพราะได้วางแล้วจากการยึดถือทั้งหลาย ความทุกข์ที่มีนั้นก็จะคลาย และเมื่อใจสบายความคิดนั้นก็จะโปร่งโล่งเบา เพราะว่าเข้าใจในปัญหาอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้น และเมื่อทำใจยอมรับได้ซึ่งความเป็นจริง อุปสรรคปัญหาในทุกสิ่งนั้นย่อมจะมีหนทางที่จะแก้ไข อยู่ที่ว่าเรานั้นทำใจได้แล้วหรือยัง…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๗”

ปรารภธรรมในยามรุ่งอรุณ

…ปรารภธรรมในยามรุ่งอรุณ…

…ในการฟังธรรมแต่ละครั้งนั้นเราจะได้มุมมองใหม่ ๆ ขึ้นมาทุกครั้ง แม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน ที่เคยฟังมาแล้ว เพราะว่าเมื่อวันเวลาผ่านไปนั้น เราได้สั่งสมซึ่ง ประสบการณ์ขึ้นมาตลอดเวลาการพัฒนาของความคิด ทำให้จิตของเราละเอียดขึ้นกว่าที่ผ่านมา ทำให้มีมุมมองใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาเสมอ

…ฉะนั้นเราจึงไม่ควรที่จะด่วนสรุปอะไรในสิ่งที่ผ่านมา ว่าเรานั้นรู้แล้วเข้าใจแล้ว เมื่อได้ฟัง ได้อ่านและได้ทำเหตุเพราะว่าในเวลานั้นความรู้ความเข้าใจของเรามันมีอยู่เท่านั้น จึงรู้และเข้าใจได้เพียงขนาดนั้น

…แต่เมื่อเราได้ประพฤติปฏิบัติต่อไปกำลังของสติและกำลังของปัญญาของเราก็จะเพิ่มขึ้น มุมมองก็จะกว้างขึ้นเห็นแง่มุมต่าง ๆ ที่เราเคยมองข้ามไปทุกสิ่งอย่างนั้น ย่อมเป็นไปตามความเหมาะสมของจังหวะ เวลา โอกาสสถานที่และบุคคล

…ซึ่งตราบใดที่เรายังไม่หมดซึ่งกิเลสเราจึงไม่ควรที่จะด่วนสรุปว่า เรารู้แล้วเข้าใจแล้วและไม่ต้องทำอีกต่อไปแล้วเพราะว่าเรานั้น ยังเป็นเสขะบุคคลที่ยังต้องฝึกฝนอีกยาวไกล…

อ่านเพิ่มเติม “ปรารภธรรมในยามรุ่งอรุณ”

ปรารภธรรมคำกวีก่อนทำวัตรเช้า

…ปรารภธรรมคำกวีก่อนทำวัตรเช้า…

…หลักธรรมนั้นมีทั้งโลกียะและโลกุตระธรรมะสำหรับผู้ครองเรือนและบรรพชิตฉะนั้นเราต้องนำเสนอให้เหมาะสมกับบุคคลอย่าเอาธรรมะสำหรับบรรพชิตนักบวชไปยัดเยียดให้ฆราวาสผู้ครองเรือนเขาปฏิบัติเพราะมันจะขัดกับวิถีชีวิตประจำวันและการดำเนินชีวิตของเขา เราต้องรู้จักความพอดีและเหมาะสม จังหวะเวลา โอกาส สถานที่และบุคคล ว่าสมควรจะใช้วิธีไหนและทำอย่างไร เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งจะทำให้การนำเสนอธรรมนั้นจะเป็นไปด้วยดีและมีผู้ปฏิบัติตาม มีความเจริญงอกงามในธรรม โดยที่เขานั้นไม่รู้ตัว…

…ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ท่านทั้งหลายตามเหตุและปัจจัยที่ท่านทั้งหลายได้กระทำบำเพ็ญมา…

อ่านเพิ่มเติม “ปรารภธรรมคำกวีก่อนทำวัตรเช้า”

รำพึงธรรมคำกวียามรุ่งอรุณ

…รำพึงธรรมคำกวียามรุ่งอรุณ…

…การพัฒนา ซึ่งมีความหมายถึงการสร้างเสริมปรับปรุงให้ดีเจริญขึ้น เป็นกิจที่ควรทำ เพราะบ้านเมืองจะเกิดความเจริญก็ด้วยการพัฒนาในส่วนต่างที่ยังด้อยความเจริญอยู่ แต่ต้องพัฒนาคนด้วยในการพัฒนาคน ก็จำต้องพัฒนาให้ถึงจิตใจ ถ้าคนมีจิตใจไม่เจริญ ก็ยากที่จะพัฒนาส่วนอื่นๆให้เกิดผลสำเร็จได้…
…พระนิพนธ์ ของ สมเด็จพระญาณสังวร…

๐ วุ่นวายและสับสน
เกิดจากคนไร้ศีลธรรม
ความโลภเข้าครอบงำ
จึงก่อกรรมให้บ้านเมือง

๐ ย่อยยับและยับย่อย
พวกคนถ่อยอยากครองเมือง
สร้างเหตุและสร้างเรื่อง
ให้บ้านเมืองต้องวุ่นวาย

๐ ลาภยศและสรรเสริญ
ถ้าหลงเพลินพาฉิบหาย
เดือดร้อนทั้งใจกาย
เพราะมุ่งหมายประโยชน์ตน

๐ สูญเสียอยากได้กลับ
ไม่ยอมรับซึ่งเหตุผล
หลอกลวงประชาชน
เพื่อให้ตนได้พ้นภัย

๐ ต่างฝ่ายต่างรุนแรง
ต่างขันแข่งไม่แก้ไข
ต่างคิดเอาแต่ใจ
ไม่ฟังใครไร้ศีลธรรม

๐ ต่างคิดว่าไม่ผิด
เพราะว่าจิตนั้นถลำ
ความโลภเข้าครอบงำ
ต่างก็ทำตามใจตัว

๐ สังคมแบ่งฝักฝ่าย
จึงวุ่นวายไปถ้วนทั่ว
ทำเพื่อประโยชน์ตัว
ไม่เกรงกลัวจึงวุ่นวาย

๐ บ้านเมืองจึงบอบช้ำ
ไร้ศีลธรรมจึงเสียหาย
ทะเลาะฆ่ากันตาย
ดั่งวัวควายไร้ปัญญา

๐ ใคร่ครวญกันสักนิด
มาร่วมคิดแก้ปัญหา
ช่วยกันพัฒนา
ถ้าหันหน้ามาร่วมกัน

๐ ร่วมกันเพื่อสรรค์สร้าง
มาร่วมทางสมานฉันท์
ก้าวเดินไปพร้อมกัน
สังคมนั้นจะรุ่งเรือง….

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๕…

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๒๗

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๒๗…

…การปฏิบัติธรรมนั้น มิได้ทำให้เราหมดกิเลส แต่ทำให้เราเห็นกิเลสที่ซ่อนอยู่ในใจของเรา ที่เรายังไม่เคยเห็นหรือไม่เคยสนใจในสิ่งนั้นทำให้เรารู้เท่าทันกิเลสที่เกิดขึ้นและมีอยู่แล้ว ในจิตใจของเรา…

…ขุนเขาทะเลหมอก
จุดสูงสุดบนยอดดอย
ก้าวเดินย่ำไปตามใจปรารถนา
ผ่านวันเวลามามากมาย
สิ่งที่ทิ้งไว้คือความทรงจำ

…เคยหวังและตั้งใจ
เที่ยวท่องไปทั่วทุกถิ่น
สัมผัสไอกลิ่นแห่งธรรมชาติ
ไม่ว่าภาคใต้หรือภาคเหนือ
ทุกเชื้อชาติทุกภาษา
ล้วนมีที่มาจากเหตุเดียวกัน

…ไม่ว่าจะเป็นใคร
ต่างก็เป็นไปที่คล้ายกัน
ล้วนต่างดิ้นรนแสวงหา
เพื่อให้ได้มาซึ่งความสุข
จึงกลายเป็นความทุกข์ไม่รู้สิ้น
ได้พบเพียงเศษชิ้นแห่งความสุข
ที่เจือด้วยทุกข์ปลอมปนเสมอมา

…อนิจจา ตัวเราก็เช่นกัน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖…

…ในการเขียนบทกวีธรรมนั้น บางครั้งเราต้องใช้อารมณ์ศิลปินเพื่อที่จะสร้างคำหรือภาษาที่สวยงามซึ่งต้องเวลาและอารมณ์ เป็นหลักในการประพันธ์บทกวี เมื่อได้พักกายพักจิต ทำชีวิตให้สบาย ทั้งภายนอกและภายใน ใจก็พร้อมที่จะทำงาน…

…การผ่อนคลายทางจิต โดยการปลดปล่อยความรู้สึกและความคิดไปสู่ท้องฟ้า มองหมู่เมฆที่เคลื่อนไปมาตามกระแสลม มองหมู่ดาวบนฟ้าในยามราตรีร้อยเรียงเรื่องราวมาเล่าเป็นบทกวี เป็นการพักผ่อนที่มีความสุขทั้งทางโลกและทางธรรม…

…เมื่อฝนซาฟ้าใสใจเป็นสุข…

๐ จะร้อยเรียง เรื่องราว และข่าวสาร
ประสบการณ์ ผ่านตา มาให้เห็น
สอนให้จำ ทำให้ดู อยู่ให้เป็น
ไม่ยากเย็น เกินกว่า พยายาม

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖”

ปรารภธรรมในยามรุ่งอรุณ

…ปรารภธรรมในยามรุ่งอรุณ…

…หลายปีที่ผ่านมานั้น มีงานก่อสร้างต่อเนื่องกันหลายแห่ง จนไม่สามารถที่จะมีเวลาปลีกตัวเข้าป่าไปปลีกวิเวกเพราะต้องดูแลควบคุมเรื่องการก่อสร้างทั้งในเรื่องแบบก่อสร้างและเรื่องปัจจัยเงินทุนที่จะนำมาสร้าง ซึ่งมันอยู่กับเราทั้งหมด ทั้งการออกแบบ การเขียนแบบและหาทุนที่จะมาก่อสร้าง

…ทำให้ไม่สามารถที่จะทิ้งงานไปได้จึงต้องปรับเรื่องการปฏิบัติของตนเองเสียใหม่ ใช้การทำงานเป็นการปฏิบัติธรรมโดยการเพิ่มกำลังสติให้มากขึ้นในการทำงานและต้องสรุปตนเองในทุก ๆ วันที่ผ่านไป ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ให้เป็นดินพอกหางหมู เพราะบางครั้งก่อนที่เราจะรู้ตัวระลึกได้ ในความประมาทหรือผิดพลาดของเรานั้น มันก็สะสมจนมีกำลังมาก ซึ่งทำให้ยากในการที่จะแก้ไขและต้องใช้ระยะเวลานาน ในการละลายพฤติกรรม ซึ่งมันจะทำให้เสียเวลา…

อ่านเพิ่มเติม “ปรารภธรรมในยามรุ่งอรุณ”

กระแสธรรมแห่งกาลเวลา

…กระแสธรรมแห่งกาลเวลา…

…ทุกชีวิตย่อมประสพกับอุปสรรคปัญหาด้วยกันทุกคน มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังบุญกุศลของแต่ละคนที่ทำมา ไม่มีใครจะหนี้พ้นอุปสรรคปัญหาไปได้ แต่ในอุปสรรคปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ย่อมที่จะมีทางแก้ไขได้ในทุกปัญหา ถ้าหากใช้สติปัญญา ความรู้สึกนึกคิดและจิตที่เป็นกลาง ไม่เข้าข้างความคิดที่ติดอยู่กับผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง

อ่านเพิ่มเติม “กระแสธรรมแห่งกาลเวลา”

ระลึกธรรมและคำกวีก่อนลงทำวัตรเช้า

…ระลึกธรรมและคำกวีก่อนลงทำวัตรเช้า…

…ไม่ต้องค้นหา ไม่ต้องแสวงหา เพราะว่าของที่ค้นหาหรือแสวงหานั้นพระพุทธเจ้าได้แสวงหาและค้นหาจนพบแล้ว และได้ประกาศไว้อย่างชัดเจน ไม่มีการซ่อนเร้นหรือปิดบัง หน้าที่ของเราคือการทำความเข้าใจและยอมรับในสิ่งนั้น แล้วเดินตามทางที่พระองค์ได้ชี้แนะไว้

…ไม่ต้องไปเสียเวลากับแสวงหาหรือค้นหาสิ่งนั้นให้วุ่นวายมันขึ้นอยู่กับใจของเราที่จะยอมรับและยอมปฏิบัติตามในธรรมที่พระองค์ได้ทรงตรัสไว้หรือไม่ มันอยู่ที่ตัวเรา

…แนวทางทั้งหลายนั้น พระพุทธองค์ทรงได้ตรัสบอกไว้แล้ว และมีแบบอย่างของพระอริยะสงฆ์สาวกของพระพุทธองค์ได้ปฏิบัติสืบทอดกันมา เป็นเวลายาวนานจนถึงวันนี้ ๒๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว เพียงเราเปิดใจยอมรับความเป็นจริง ละทิ้งทิฏฐิและอัตตาเราก็สามารถที่จะเดินไปตามทางสายนั้นได้มันอยู่ที่ใจเรานั้นพร้อมแล้วหรือยัง…

อ่านเพิ่มเติม “ระลึกธรรมและคำกวีก่อนลงทำวัตรเช้า”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๒๖

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๒๖…

…จิตสำนึกแห่งคุณธรรม…

… มนุษย์ทุกคนมีความคิด ถูกหรือผิดต่างรู้อยู่แก่ ใจแต่ที่ยังกระทำลงไปในสิ่งผิดเป็นเพราะว่าขาดจิตสำนึกแห่งคุณธรรม ที่จะหักห้ามใจมิให้กระทำผิด

… จิตสำนึกต้องผ่านการฝึกฝน ฝึกนึกฝึกคิดปรับจิตให้เป็นกุศล ฝึกพูดในสิ่งที่เป็นมงคลแก่ตนเองและผู้อื่น ฝึกกระทำในสิ่งที่คิดและพูดที่เป็นความดี เพียรกระทำอย่างนี้อย่างสม่ำเสมอ จนเกิดเป็นความเคยชินและติดเป็นนิสัย

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๒๖”