บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๐

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๐…

…เมื่อใจของเรามีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าแล้ว ความศรัทธาในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าก็จะบังเกิดขึ้นและส่งผลไปยังพระสงค์สาวกของพระพุทธองค์ ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สืบทอดพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าต่อกันมา

…พุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสสติ นั้นเป็นอนุสสติที่เกื้อกูลกัน สืบเนื่องกันเป็นการระลึกนึกคิดที่เป็นพื้นฐานของกุศลธรรมทั้งหลาย ที่จะเจริญยิ่งขึ้นในโอกาสต่อไป ถ้าเราทั้งหลายนั้นมีศรัทธาตั้งมั่น ไม่ละความความเพียรในการประกอบกรรมดี…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๖๐”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๙

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๙…

…คำว่า “คน” คือคลุกเคล้า ให้เข้ากัน
สารพัน สารพัด จะจัดหา
มาหล่อรวม ร่วมไว้ ในโลกา
นี่ละนา นี่ละหนา คำว่า “คน”

… โลกสับสน วุ่นวาย มาหลายยุค
ให้เกิดทุกข์ โทษภัย มาหลายหน
เพราะต่างคน ต่างเอา แต่ใจตน
ไร้เหตุผล จนต้อง ทะเลาะกัน

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๙”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๘

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๘…

๐ จงทำงาน ทุกชนิด ด้วยจิตว่าง
คือละวาง อัตตา และทิฐิ
เพื่อวางแผน ก่อนงาน การเริ่มริ
ด้วยการตริ การตรอง มองดูงาน

๐ การทำงาน ต้องประสาน สรรพสิ่ง
ให้เป็นจริง ไปได้ ทุกสถาน
ให้เหมาะสม กับปัจจัย และเหตุการณ์
การทำงาน คือการ ประพฤติธรรม

๐ คือการเอา หลักธรรม นำความคิด
และฝึกจิต ฝึกใจ ไม่ใฝ่ต่ำ
จงอย่าให้ อัตตา เข้าครอบงำ
จงน้อมนำ เอาธรรม เป็นแนวทาง

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๘”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๗

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๗…

…ความเป็นผู้รู้ประมาณในกาลเวลา…

“การแสดงความคิดเห็นนั้น ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสมพอดีพอเหมาะและพอควร มากเกินไปมันจะกลายเป็นความฟุ้งซ่านไร้สาระน่าเบื่อหน่ายต่อผู้รับ ทำให้ความคิดเห็นต่อ ๆ ไปกลายเป็นสิ่งที่ถูกปฏิเสธไม่ได้รับความสนใจ ทั้งที่อาจจะเป็นความคิดเห็นที่ดี ๆ สิ่งนั้นคือเรื่องของกาลเทศะ การรู้จัก จังหวะเวลา โอกาส สถานที่และบุคคลที่ต้องศึกษาและทำความเข้าใจในการแสดงความคิดเห็นและการสนทนากับผู้อื่น”

…เป็นคำพูดที่ได้กล่าวแก่ผู้มาปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ ถึงเรื่องที่ควรระวังในการแลเปลี่ยนความคิดเห็นพูดคุย เพื่อนำไปสู่ความรู้และความเข้าใจและการตอบรับของผู้ฟัง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๖

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๖…

… คุณค่าของวันเวลาที่ผ่านมานั้นจัดสรรให้มีค่ามากที่สุด เท่าที่จะทำได้ไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยไร้ซึ่งประโยชน์ ทั้งในเรื่องทางโลกและในเรื่องทางธรรม ตอกย้ำจิตสำนึกในบทบาทภาระและหน้าที่ เพราะวันเวลาของชีวิตที่ได้ผ่านมานั้น มันคือกำไรของชีวิตแห่งการที่ยังมีลมหายใจอยู่

…ชีวิตก้าวข้ามความตายมาหลายครั้งในสมัยที่ยังไม่รู้จักคุณค่าของชีวิตเดินอยู่บนเส้นทางที่พลาดผิดห่างไกลธรรม เพลิดเพลินในการประกอบกรรมอันเป็นอกุศลโดยไม่มีความรู้สึกรักตัวและกลัวตายในสิ่งที่ทำ ชีวิตที่รอดมาได้จนถึงวันนี้มันจึงคือกำไรของชีวิต เมื่อมีความรู้สึกสำนึกผิด ชีวิตที่เหลือก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัวอีกต่อไป…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๖”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๕

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๕…

…พยายามรักษาจิต ปรับความคิดและมุมมองใหม่ ปลีกตัวออกจากหมู่คณะนั่งดูกายดูจิต ดูความคิดของตนเองเพราะว่าถ้าเราไม่หลีกออกมาจากจุดนั้นยังติดอยู่กับปัญหาและบุคคล สถานที่นั้นมันก็จะเพิ่มความกดดัน เพราะมีผัสสะคือสิ่งกระทบอยู่ตลอดเวลา จึงต้องถอยออกมาตั้งหลัก พักกาย พักใจ ปรับจิตเสียใหม่ แล้วจึงเข้าไปแก้ไขปัญหา

…การที่จะแก้ไขปัญหานั้น เราต้องทำใจให้อยู่เหนือปัญหา คือละวางปัญหานั้นเสียก่อน อย่ามองว่ามันเป็นปัญหาของเราของพวกเรา หรือว่าเรานั้นมีส่วนร่วมในปัญหาเหล่านั้น ยกจิตออกจากปัญหาปรับความคิดเสียใหม่ แล้วมองย้อนไปที่ปัญหา มองแบบคนนอกที่ไม่มีส่วนได้เสียกับปัญหาเหล่านั้น

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๕”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๔

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๔…

…คุณค่าของเวลาที่ผ่านมานั้นจัดสรรให้มีค่ามากที่สุด เท่าที่จะทำได้ไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยไร้ซึ่งประโยชน์ทั้งในเรื่องทางโลกและในเรื่องทางธรรมตอกย้ำจิตสำนึกในบทบาทภาระและหน้าที่เพราะวันเวลาของชีวิตที่ได้ผ่านมานั้นมันคือกำไรของชีวิตแห่งการที่ยังมีลมหายใจอยู่

…ชีวิตก้าวข้ามความตายมาหลายครั้งในสมัยที่ยังไม่รู้จักคุณค่าของชีวิตเดินอยู่บนเส้นทางที่พลาดผิดห่างไกลจากธรรม เพลิดเพลินในการประกอบกรรมอันเป็นอกุศล โดยไม่มีความรู้สึกรักตัวและกลัวตาย ในสิ่งที่ทำ ชีวิตที่รอดมาได้จนถึงวันนี้ มันจึงเป็นกำไรของชีวิตเมื่อมีความรู้สึกสำนึกผิด ชีวิตที่เหลือก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัว…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๔”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๓

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๓…

…เมื่อใจนั้นยอมรับซึ่งความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลายว่าเรานั้นเป็นผู้กระทำ สิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นผลแห่งวิบากกรรมที่เรานั้น ได้เคยกระทำมา ไม่ไปโทษดินโทษฟ้าหาผู้รับผิดมาแทนเรา ใจนั้นก็จะเบาเพราะได้วางจากกายึดถือทั้งหลาย ความทุกข์ที่มีนั้นก็จะคลาย และเมื่อใจสบาย ความคิดนั้นก็จะโปร่งโล่งเบาเพราะว่าเข้าใจในปัญหาอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นและเมื่อทำใจยอมรับได้ซึ่งความเป็นจริง อุปสรรคปัญหาในทุกสิ่งนั้นย่อมจะมีหนทางที่จะแก้ไขได้อยู่ที่ว่าเรานั้นทำใจได้แล้วหรือยัง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๖ มิถุนายน ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๒

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๒…

…จิตระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตของเช้าวันหนึ่งบนดอยสูงกลางป่าใหญ่ สายฝนได้โปรยปรายลงมาในยามเช้าฉันเฝ้ามองดูหยดน้ำที่ตกจากหลังคาหยดแล้วหยดเล่าที่ตกมาไม่ขาดสาย เพ่งมองจนเวลาผ่านล่วงไปเนิ่นนาน สภาวธรรมได้เกิดขึ้นในจิตสังเวชในชีวิตที่ล้วนแล้วแต่ทุกข์ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้และแน่นอนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปตลอดเวลา ไม่สามารถที่จะไปยึดมั่นถือมั่นได้เลย

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๒”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๑

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๑…

…เมื่อใจนั้นยอมรับซึ่งความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ว่าเรานั้นเป็นผู้กระทำสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นผลแห่งวิบากกรรมที่เรานั้นได้เคยกระทำมา ไม่โทษดินโทษฟ้า หาผู้รับผิดมาแทนเรา ใจนั้นก็จะโปร่งโล่งเบาเพราะได้วางจากการยึดถือทั้งหลาย ความทุกข์ที่มีนั้นก็จะคลายและเมื่อใจสบาย ความคิดนั้นก็จะโปร่งโล่งเบา เพราะว่าเข้าใจในปัญหาอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นและเมื่อทำใจยอมรับได้ซึ่งความเป็นจริงอุปสรรคปัญหาในทุกสิ่งนั้นย่อมจะมีหนทางที่จะแก้ไข อยู่ที่ว่าเรานั้นทำใจได้แล้วหรือยัง…

…กวีธรรมจากรอยทาง…

๐ รอนรอนตะวันลับ
เสียงนกขับกังวานมา
ใกล้ค่ำสนธยา
หมู่นกกาบินกลับรัง

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๑”