บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๒๐

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๒๐…

…บอกกล่าวกับผู้คนที่ได้สนทนาธรรมกันอยู่บ่อยครั้งว่า เรื่องราวเหตุการณ์ของแต่ละคนที่ได้ผ่านมานั้น มันเกิดจากกรรมที่ได้ทำมาจากอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาตินี้ก็ดี ทุกอย่างนั้นมีเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิด

…ทุกย่างก้าวที่เราเดินผ่าน
นั้นคือตำนานของชีวิต
ที่เราได้ลิขิตขึ้นมาเอง
ไม่ใช่โชคชะตาหรือฟ้าลิขิต
ไม่ใช่นิมิตของสรวงสวรรค์
ไม่ใช่พระพรหมนั้นมาบันดาล
แต่สิ่งที่ชีวิตต้องพบพาน
นั้นล้วนแต่เกิดจากกรรม
ที่เคยกระทำผูกพันกันมา
จึงต้องมาประสพพบเจอ
มีทั้งกรรมที่เป็นอกุศล
อันส่งผลให้พบความทุกข์
หรือว่ากรรมที่เป็นกุศล
อันส่งผลให้ได้รับความสุข
ทุกเรื่องจึงสรุปลงที่กรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๙

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๙…

…สรรพสิ่งย่อมแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา มากบ้างน้อยบ้างขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัย จิตที่ไม่ได้ฝึกให้ดีย่อมหวั่นไหวไปตามกระแสของโลกที่แปรเปลี่ยนไปทุกขณะ

…แต่จิตที่ฝึกฝนไว้ดีแล้วนั้น ย่อมไม่หวั่นไหวไปตามกระแสแห่งโลกธรรมในความเคลื่อนไหว จิตนั้นไม่หวั่นไหวเพราะว่ามีธรรมเป็นเครื่องอยู่อาศัยมีธรรมเป็นเกราะคุ้มกันภัยจากกระแสแห่งโลกธรรมทั้งหลาย…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๘

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๘…

…การปฏิบัติธรรมนั้นทำได้ทุกขณะทุกอิริยาบถ ไม่จำกัดกาลและสถานที่ขอให้เรามีสติระลึกรู้และมีความรู้ตัวทั่วพร้อม อย่าไปติดยึดในรูปแบบและท่าทาง เพราะการปฏิบัติธรรมนั้นไม่ใช่การแสดง การโชว์หรือโอ้อวดกันแต่เป็นการกระทำภายในจิตใจของเราซึ่งถ้าเรามีสติและสัมปชัญญะแล้วเราจะรู้ว่าเรากำลังทำอะไรและเพื่ออะไร “ไม่มีใครรู้ซึ้งเท่าหนึ่งจิต” ว่าเราคิดและเรากำลังทำอะไร เพื่ออะไร ได้ดีไปกว่าตัวของเราเอง “รู้กาย รู้จิตรู้ความคิด รู้สิ่งที่กระทำ” นั้นคือการปฏิบัติธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๗

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๗…

…ฝึกวางใจให้มันมั่งคง ไม่กังวล ไม่สนใจใคร ทำให้เหมือนกับอยู่คนเดียว ภายนอกเคลื่อนไหวภายในทำใจให้สงบ พิจารณาร่างกาย พิจารณาดูจิต มันฟุ้งซ่านไปไหนก็ให้รู้จักมัน รู้เท่าทันกับกิเลส สู้กับกิเลสที่เกิดขึ้นในใจเรา เอาชนะมันให้ได้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว สำหรับวันๆหนึ่ง…

…เบื่อเบื่อ อยากอยาก หลายครั้ง
เมื่อยัง ฝึกฝน เริ่มใหม่
หลบหลีก อยู่ตาม พงไพร
หวั่นไหว ต่อโลก มายา

…ไม่ว่า จะอยู่ ที่ไหน
ไม่ไร้ วุ่นวาย ปัญหา
เพราะต้อง พบปะ พึ่งพา
ศรัทธา หาเลี้ยง ชีพตน

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๗”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๖

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๖…

…ความเจริญในธรรมนั้น เหมือนกับต้นไม้ คือต้องค่อยเป็นค่อยไปตามกาลเวลาและลำดับชั้น เหมือนเราปลูกต้นไม้ เราอยากจะให้ต้นไม้มันโตไวๆ ให้ดอกออกผลโดยเร็วแต่มันเป็นไปไม่ได้ ต้นไม้มันต้องเจริญเติบโตไปตามระยะเวลาและอายุของมัน

…การปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน มันต้องผ่านกาลเวลา การสั่งสมเพิ่มพูนกำลังไปตามลำดับชั้น การปฏิบัตินั้นจึงจะเป็นไปด้วยดี และมีความเจริญในธรรมที่มั่นคง ถูกต้องตามหลักของพระพุทธศาสนา ตามที่องค์พระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสสอนไว้…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๖”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๕

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๕…

…ค้นพบบันทึกเล่มเก่าที่เขียนไว้เมื่อ ๒๓ ปีที่แล้ว มีเรื่องราวมากมายที่ได้เขียนบันทึกไว้ในสมุดเล่มนั้นเปิดอ่านที่ละหน้าแล้ว พิจารณาย้อนกลับไปในอดีตเรื่องราวที่บันทึกไว้นั้น ได้บอกอะไรแก่เรา ได้มากมายสิ่งที่บันทึกไว้นั้นเป็นเครื่องเตือนความทรงจำแก่ตัวเราจุดหมายปลายทางของชีวิตและทิศทางที่จะต้องเดินไป…

…บันทึกบทหนึ่งของชีวิต…

…ชีวิตคือการเดินทาง
เพื่อสร้างกุศลกรรม สั่งสมบารมี
ด้วยจิตสำนึกแห่งคุณธรรม
ปรารถนาไปถึงซึ่งความพ้นทุกข์
ฝันไว้ไกลและต้องไปให้ถึง
ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติก็ตาม
จะพยายามก้าวไปข้างหน้าไม่หยุด
สั่งสมอบรมอินทรีย์สร้างบารมีต่อไป
ฝันที่ตั้งไว้คงไม่ไกลเกินความจริง…

…เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต…

…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร…
๑๘ ก.พ.๔๑ วัดเก่าเจริญธรรม กระโสม พังงา

…พิจารณาย้อนกลับไปถึงในวันนั้น เทียบเคียงกับปัจจุบันในวันนี้ สิ่งที่ตั้งใจไว้ เราได้ทำตามความมุ่งหวังแล้วรึยัง ก้าวหน้าหรือว่าถอยหลัง เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๔

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๔…

…เมื่อใจเราอยู่กับธรรม
ธรรมนั้นก็อยู่กับเรา
เมื่อเรารักษาธรรม
ธรรมนั้นจะรักษาเรา
ธรรมะคือตัวเรา ตัวเราคือธรรมะ
เพราะธรรมะนั้นคือธรรมชาติ
ที่เป็นจริงของสรรพสิ่งในโลกนี้…

๐ ยกข้อธรรม นำมา สาธยาย
สื่อความหมาย แห่งธรรม นำวิถี
ให้ใคร่ครวญ ทวนทบ พบสิ่งดี
บทกวี ชี้ทาง ห่างอบาย

๐ ทุกถ้อยคำ เน้นย้ำ เรื่องสติ
สมาธิ ตั้งมั่น มีจุดหมาย
มีสติ คุ้มครอง รองรับกาย
เดินตามสาย เส้นทาง อย่างมั่นคง

๐ ดำรงตน อยู่ใน ศีลธรรม
ไม่ก่อกรรม ทำชั่ว ด้วยมัวหลง
ซึ่งกิเลส ตัณหา พาพะวง
ให้ต่ำลง สู่อบาย ตายทั้งเป็น

๐ ยกจิตสู่ กุศล เป็นผลดี
ฝึกให้มี หิริ ระลึกเห็น
โอตตัปปะ คุ้มครอง ให้ร่มเย็น
มองให้เห็น ดีชั่ว กลัวบาปกรรม

๐ ปลุกสำนึก ความคิด จิตมนุษย์
เป็นชาวพุทธ ไม่ควร จะใฝ่ต่ำ
จงอย่าให้ กิเลส มาครอบงำ
ศึกษาธรรม นำทาง สว่างใจ

๐ รู้จักความ พอดี เป็นที่ตั้ง
ควรระวัง ความโลภ อย่าหลงใหล
ให้อยู่ดี มีสุข ไม่ทุกข์ใจ
อย่าอยากได้ เกินไป ให้ทุกข์ทน

๐ เมื่อมีน้อย ใช้น้อย คอยประหยัด
เราควรจัด บริหาร ให้เกิดผล
อย่าใช้เกิน กำลัง ระวังตน
เกิดเป็นคน ควรรู้การ ประมาณตน…

…ฝากไว้เป็นข้อคิดเพื่อเตือนจิตสะกิดใจ…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๓

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๓…

…เก็บเกี่ยวเรื่องราวที่ได้พบเห็นมา ถ่ายทอดเป็นบทกวีธรรมเพื่ออนุรักษ์ซึ่งศักดิ์ศรีความสวยงามของภาษาไทย ฝากไว้ให้คนรุ่นต่อไปได้ศึกษา…

…ได้รู้ และได้เห็น
ความที่เป็น ในโลกนี้
คละเคล้า ทั้งชั่วดี
ล้วนแต่มี ให้พบเจอ

…มองหา คุณประโยชน์
และทุกข์โทษ อยู่เสมอ
วางใจ ไม่เผลอเลอ
สิ่งที่เจอ ต้องจดจำ

…จำไว้ เป็นบทเรียน
และหมั่นเพียร มาน้อมนำ
ฝึกคิด และฝึกทำ
ฝึกน้อมนำ สู่ทางดี

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๓”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๒

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๒…

…ชีวิตคือการเดินทางของจิตวิญญาณที่ต้องผ่านบททดสอบมามากมายกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางของชีวิตเรียนรู้ความถูกผิดและดีชั่วอยู่ตลอดเวลาแสวงหาซึ่งความสำเร็จของชีวิตที่คิดไว้แตกต่างกันไปตามความปรารถนาของแต่ละคน

…รางวัลของชีวิตมิได้วางไว้ที่จุดเริ่มต้นและหนทางนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบย่อมมีอุปสรรคขวากหนามอยู่บนเส้นทางทุกอย่างที่พานพบล้วนเป็นประสบการณ์ของชีวิต ความพลาดผิดพลาดพลั้งจึงไม่ใช่ความล้มเหลว แต่มันเป็นบทเรียนของชีวิตที่สอนให้เราเรียนรู้

…ชีวิตที่เหลืออยู่เรียนรู้จากสิ่งที่ผ่านมาเพื่อที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าแสวงหาในสิ่งทีดีให้แก่ชีวิตไม่ให้พลาดผิดอย่างที่เคยผ่านมาเพราะว่าเราได้เรียนรู้และมีบทเรียนมาแล้ว ตราบใดที่ชีวิตนั้นยังมีลมหายใจการเดินทางของชีวิตก็ยังไม่สิ้นสุด…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔…

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๑

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๑…

…ในส่วนลึกใต้จิตสำนึกของทุกคนนั้นย่อมจะมีจิตสำนึกแห่งความใฝ่ดีซ่อนอยู่เสมอ เพียงแต่บางครั้งยังไม่ได้แสดงออกมา เพราะเงื่อนไขของเรื่องจังหวะ เวลา โอกาส สถานที่และตัวบุคคลนั้นยังไม่เอื้ออำนวย จึงไม่เปิดโอกาสให้แสดงออกมาได้ในสิ่งนั้นทุกคนต่างมีเหตุปัจจัยและพื้นฐานความคิดที่แตกต่างกัน ทำให้ความคิดเห็นของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป การที่จะไปตัดสินว่าความคิดเห็นของใครนั้นถูกหรือผิด เราไม่ควรเอาพื้นฐานความคิดเห็นของตัวเรานั้นมาเป็นข้อสรุป ว่าสิ่งที่เขาคิดเห็นนั้นถูกหรือผิด เพราะว่าทุกคนต่างก็มีจิตสำนึกที่แตกต่างกันไป โดยพื้นฐานจากเหตุและปัจจัยของแต่ละคนนั้นมีที่มาและที่ไปที่แตกต่างกัน

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๑”