จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๗

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๗…

…เจริญธรรมอย่างเดียว ชื่อว่าเจริญธรรมอย่างอื่นอีกมาก…

…“ดูก่อนอานนท์ ! ธรรมอย่างหนึ่งคืออานาปานสติสมาธิ (สมาธิ ซึ่งมีสติกำหนดลมหายใจเข้าออกเป็นอารมณ์) อันบุคคล เจริญแล้ว ทำให้มากแล้วย่อมทำสติปัฏฐาน (การตั้งสติ) ๔ อย่างให้สมบูรณ์ สติปัฏฐาน ๔ อันบุคคลเจริญแล้วทำให้มากแล้ว ย่อมทำโพชฌงค์ (องค์ประกอบแห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้) ๗ อย่างให้บริบูรณ์ โพชฌงค์ ๗ อันบุคคลเจริญทำให้มากแล้ว ย่อมทำวิชชา (ความรู้) วิมุติ (ความหลุดพ้น)ให้บริบูรณ์ “…
…สังยุตนิกาย มหาวรรค ๑๙/๔๑๗…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๗”

คิดไป เขียนไป บทที่ ๒๒

…คิดไป เขียนไป บทที่ ๒๒…

…ตราบใดที่ยังมีหนทางไป ใจย่อมไม่นึกถึงพระธรรม แต่ในยามที่คุณชอกช้ำ พระธรรมคือที่พึ่งสำหรับคุณ

…เมื่อยังไม่ถึงกาลเวลาที่เหมาะสมจิตย่อมเข้าไม่ถึงธรรม จึงยากที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ อดทนรอให้เขามีความพร้อมจึงกล่าวธรรม…

…ชีวิตไม่เคยยึดติดในลาภ ยศ สรรเสริญสุข ดำเนินชีวิตไปตามวิถีแห่งสมณะเพื่อการลดละและเพื่อสร้างบารมีธรรมไม่ยึดติดในที่อยู่อาศัย เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็ลาจากไป ให้คนที่อยู่เขาดูแลรักษากันต่อไป อาจจะแวะไปเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว เป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านกาลเวลา ผ่านมาแล้วจากไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำ ให้นึกคิดจินตนาการ

อ่านเพิ่มเติม “คิดไป เขียนไป บทที่ ๒๒”

ระลึกถึงธรรมคำของหลวงปู่

…ระลึกถึงธรรมคำของหลวงปู่…

…สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรทำ
ความผูกพัน เพราะเป็นสิ่งที่
ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง
แม้กระทำความผูกพันและมั่นใจ
ในสิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบัน
ก็เป็นไปไม่ได้ ผู้ทำความสำคัญ
มั่นหมายนั้น เป็นทุกข์แต่ผู้เดียว
โดยความไม่สมหวังตลอดไป

…อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้น
เป็นสิ่งไม่ควรไปยึดเหนี่ยว
เกี่ยวข้องเช่นกัน

…อดีตปล่อยไว้ตามอดีต
อนาคตปล่อยไว้ตามกาลของมัน
ปัจจุบันเท่านั้นจะสำเร็จประโยชน์ได้
เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ ไม่สุดวิสัย…

…หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕…

รำพึงธรรมและคำกวีในยามเย็น

…รำพึงธรรมและคำกวีในยามเย็น…

…ย้ำเตือนอยู่เสมอว่า จงเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านกาลเวลา ผ่านมาแล้วก็จากไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่งดงามตามรายทาง…

…เป็นกรรมกรธรรม ใช้โยธากัมมัฏฐานเพื่อเป็นการเจริญสติและสัมปชัญญะยังให้เกิดประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านเป็นลดละซึ่งมานะและอัตตา ความโลภความหลงในโลกธรรม ๘ อันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ดำเนินชีวิตไปตามวิถีทางที่มุ่งหวัง เป็นไปเพื่อให้ความเจริญในธรรมนั้นบังเกิด ชีวิตที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มันก็คือกำไรของชีวิต…

อ่านเพิ่มเติม “รำพึงธรรมและคำกวีในยามเย็น”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๖

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๖…

…บทเพลงแห่งรัตติกาล…

…ดึกดื่นในคืนค่ำ
ม่านเมฆดำปิดบังดาว
หลายหลากมากเรื่องราว
สายลมหนาวต้องกายา

…เหนื่อยนักอยากพักผ่อน
เพราะแรมรอนจมเหนื่อยล้า
รายทางที่ย่างมา
พบปัญหาสารพัน

…ก้าวพ้นช่วงวิกฤติ
ของชีวิตแห่งความฝัน
อยู่กับปัจจุบัน
ผ่านคืนวันอันยาวนาน

…บันทึกการเดินทาง
ทุกสิ่งอย่างที่ย่างผ่าน
บอกเล่าประสพการ
ด้วยวิญญาณของกวี

…มุมหนึ่งของชีวิต
จะถูกผิดไม่อาจชี้
มอบให้ด้วยไมตรี
บทกวีคนเดินทาง

…เดินบนเส้นทางธรรม
ที่จะนำแสงสว่าง
ปล่อยปละและละวาง
ทุกสิ่งอย่างที่ไม่ดี

…เผยแผ่หลักคำสอน
เป็นบทกลอนบทกวี
ทางธรรมเพื่อนำชี้
สิ่งชั่วดีที่กระทำ

…ความรู้อาจน้อยนิด
ไม่เคยคิดจะก่อกรรม
สิ่งที่ได้กระทำ
ช่วยชี้นำเพื่อนร่วมทาง

…ลิขิตตัวอักษร
เป็นบทกลอนเพื่อสรรค์สร้าง
ศรัทธาไม่เคยจาง
บทเส้นทางของสายธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๔ มกราคม ๒๕๖๕…

คิดไป เขียนไป บทที่ ๒๑

…คิดไป เขียนไป บทที่ ๒๑…

…กวีธรรมจากรอยทาง…

๐ วิถี แห่งชีวิต
เราลิขิต เพื่อก้าวเดิน
ไปสู่ ความเจริญ
สงบสุข ในทางธรรม

๐ ทุกทาง ที่ย่างก้าว
เก็บเรื่องราว มากล่าวนำ
สิ่งคิด และสิ่งทำ
ได้จารึก บันทึกมา

๐ เพื่อให้ เป็นข้อคิด
เพื่อเตือนจิต เพิ่มปัญญา
เรียนรู้ และศึกษา
เพื่อประยุกต์ ปรับใช้กัน

๐ แนวทาง ของชีวิต
เพื่อความคิด ที่ใฝ่ฝัน
ก้าวเดิน ไปด้วยกัน
บนสายทสง แห่งความดี

๐ ชีวิต ลิขิตได้
มีมากมาย หลายวิธี
เอาธรรม มานำชี้
เพื่อให้ใจ นั้นใฝ่ธรรม

๐ อย่าให้ อกุศล
ความมืดมน มาครอบงำ
ทำจิต ให้ตกต่ำ
จงเอาธรรม มานำทาง

๐ เอาธรรม นำความคิด
เพื่อให้จิต นั้นสว่าง
รู้ลด และละวาง
จิตหลุดพ้น จากอบาย

๐ พอดี และพอเพียง
ในการเลี้ยง ใจและกาย
ใจสุข กายสบาย
นั้นคือสิ่ง ที่ดีงาม

๐ ทางธรรม ทำไม่ยาก
ถ้าเราหาก จะทำตาม
ความเพียร พยายาม
ปฏิบัติ เป็นสัมมา

๐ ปรับจิต คิดแบบใหม่
เริ่มที่ใจ ปรารถนา
สติ เป็นสัมมา
เกิดปัญญา สงบใจ

๐ เมื่อใจ สงบนิ่ง
จะเห็นสิ่ง ควรแก้ไข
เห็นทาง ที่จะไป
เพราะได้พบ สัจธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕…

ทบทวนธรรมคำของพ่อแม่ครูบาอาจารย์

…ทบทวนธรรมคำของพ่อแม่ครูบาอาจารย์…

…คนเราควรมองผู้มีปัญญาใดๆที่คอยชี้โทษ คอยกล่าวคำขนาบอยู่เสมอไปว่าคนนั้นแหละ คือผู้ชี้ขุมทรัพย์ละควรคบบัณฑิตที่เป็นเช่นนั้นเมื่อคบหากับบัณฑิตชนิดนั้นอยู่ย่อมมีแต่ดีท่าเดียว ไม่มีเลวเลย…
…พระไตรปิฎกบาลี สยามรัฐ
๒๕/๒๕/๑๖…

อ่านเพิ่มเติม “ทบทวนธรรมคำของพ่อแม่ครูบาอาจารย์”

ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต

…ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต…

…ช่วงนี้จะมีการบวชพระกันบ่อยมากทั้งที่เป็นการบวชในโครงการต่าง ๆ หรือการบวชตามประเพณีนิยมที่ได้สืบทอดกันมา

…การบวชนั้นมิใช่เรื่องง่าย หรือว่าทำกันเล่น ๆ ผู้ที่จะบวชนั้นจะต้องมีความศรัทธาและตั้งใจ มิเช่นนั้นแล้วจะไม่เกิดประโยชน์อันใดในการบวชและจะกลายเป็นผู้ทำลายพระศาสนาโดยไม่รู้ตัวของผู้ที่บวชเข้ามา

อ่านเพิ่มเติม “ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๕

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๕…

“ อย่ารังเกียจผู้ที่มีกรรม อย่าซ้ำเติมผู้ที่หลงผิด “

…จงชี้ทางถูกให้แก่ผู้ที่มืดบอด…

“Don’t repel…Don’t reproach the careless man but tell the blind with the good way.”

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๕”

กวีธรรมจากรอยทาง

…กวีธรรมจากรอยทาง…

๐ รอยทาง สร้างรอยธรรม
รอยที่ย่ำ คือรอยทาง
รอยธรรม คือแบบอย่าง
เป็นแนวทาง ที่ก้าวนำ

๐ เรียบเรียง มาบอกเล่า
เพื่อให้เข้า ใจในธรรม
ออกจาก ความมืดดำ
เพื่อชี้นำ สู่ทางดี

๐ หลายหลาก มากมุมมอง
ตอบสนอง ในทุกที่
แนวทาง และวิธี
นั้นมากมี ให้เดินตาม

๐ เดินตาม เส้นทางธรรม
ที่ชี้นำ ให้ก้าวข้าม
หุบเหว และขวากหนาม
พยายาม สร้างกรรมดี

๐ กรรมดี จะส่งผล
เป็นมงคล เสริมราศี
จิตดี ส่งกายดี
เพราะว่ามี ความสุขใจ

๐ สุขใจ เพราะไร้ทุกข์
ได้พบสุข ที่สดใส
ชีวิต ก้าวเดินไป
เพราะว่าได้ เดินตามธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕…