จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๘

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๘…

๐ มองอะไร มองไป ให้ทุกด้าน
ธรรมประสาน ในจิต เพื่อคิดใหม่
มองทั้งดี ทั้งร้าย คู่กันไป
มองโดยใช้ เหตุผล เป็นต้นทุน

๐ ใช้เหตุผล หักล้าง ในทางก่อ
แล้วเติมต่อ ใช้ธรรมะ มาเกื้อหนุน
ละความชอบ ส่วนตัว ที่เจือจุน
คิดถึงบุญ กุศล เป็นหนทาง

๐ สมเด็จโต กล่าวไว้ ในครั้งก่อน
ท่านได้สอน ให้มอง ทั้งสองอย่าง
เอากระจก หกด้าน เป็นแนวทาง
มองทุกอย่าง ให้เห็น ความเป็นจริง

๐ เมื่อเห็นธรรม เข้าใจธรรม จงทำต่อ
ธรรมนั้นหนอ จะประสาน ในทุกสิ่ง
สัจธรรม นั้นหรือ คือความจริง
สรรพสิ่ง คือธรรม ที่นำทาง

๐ มองทุกสิ่ง เป็นธรรม นำความคิด
ทั้งถูกผิด ให้เห็น เป็นแบบอย่าง
มองให้เห็น มองให้รอบ ไปทุกทาง
มองทุกอย่าง โดยสติ แล้วตริตรอง

๐ ในโลกนี้ มีทั้งมืด และสว่าง
ทั้งสองอย่าง คิดไว้ ในสมอง
ก่อนจะทำ ควรคิด และตริตรอง
อย่าได้ลอง ทำไป ใช้อารมณ์

๐ จงครวญคิด พินิจ และศึกษา
ไตร่ตรองมา ให้เห็น เป็นเหมาะสม
อย่าทำไป ด้วยว่า ค่านิยม
จงชื่นชม คุณธรรม ทำให้ดี

๐ ตามจังหวะ เวลา และโอกาส
อย่าประมาท ทำไป ให้ถูกที่
ถูกบุคคล ถูกสถาน ถูกวิธี
จงทำดี ให้ถูกดี จงมีธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๔…

บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๓

…บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๓…

…ย้ำเตือนตนอยู่เสมอว่า จงเป็นเหมือนสายลมที่พัดผ่านกาลเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปเมื่อใจไม่ไปยึดติดยึดถือ ความห่วงหาอาลัยก็ไม่มี อยู่กับสภาวะแห่งปัจจุบันธรรมตามวิถีที่เป็นไปในแต่ละวัน ทำหน้าที่ของเรานั้นให้สมบูรณ์ตามบทบาทและหน้าที่ที่เป็นอยู่จิตตามดู ตามรู้ ตามเห็นในความเป็นไปของกายและจิตมีสติและสัมปชัญญะคุ้มครองกายและจิตคิดให้เป็นกุศลวันเวลาก็จะผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็วเพราะใจเราไม่ไปยึดถือจิตโปร่งกายเบา ไม่ซึมเซา เพราะมีอารมณ์ธรรมแห่งปีติทรงอยู่ เรียนรู้และพิจารณาทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา…

อ่านเพิ่มเติม “บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๓”

คิดไป เขียนไป บทที่ ๓

…คิดไป เขียนไป บทที่ ๓…

…วันเวลาแห่งชีวิตลิขิตไปตามกฎแห่งกรรมสิ่งที่เราเคยได้กระทำมาในอดีตและปัจจุบันส่งผลมาสู่วันนี้ทั้งกรรมดีที่เป็นกุศลส่งผลให้พบสิ่งดีและกรรมที่เป็นอกุศลที่ส่งผลมาเป็นอุปสรรคปัญหา สิ่งที่ผ่านมานั้น แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เพราะมันเป็นอดีต จงยืดอกยิ้มสู้ยอมรับในกฎแห่งกรรมที่ทำมา…

อ่านเพิ่มเติม “คิดไป เขียนไป บทที่ ๓”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๗

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๗…

…หลากหลายกิจที่ทำก็เพื่อสงเคราะห์โลกและธรรม สิ่งเหล่านั้นไม่ผิดต่อธรรมวินัย เป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยกุศล สร้างคน สร้างงาน สร้างจิตสำนึก ประสานโลกและธรรมให้ก้าวเดินไปด้วยกัน

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๗”

บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๒

…บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๒…

…วันเวลาผ่านไปกับสิ่งรอบกายทั้งภายนอกและภายในที่เราได้เจอะเจอ ล้วนแล้วแต่เป็นครูที่สอนให้เรารู้และเข้าใจในหลักธรรมทำให้นึกถึงคำกล่าวสอนเน้นย้ำของหลวงพ่อพุทธทาส ที่ท่านได้กล่าวอยู่เสมอ เกี่ยวกับเรื่อง “ตัวกู-ของกู” เพื่อเป็นการเน้นย้ำเตือนสติมิให้หลงลืม คือต้องรู้ต้องเข้าใจและทำให้ได้ โดยการมีสติและสัมปชัญญะ เตือนตนเตือนจิตอยู่ตลอดเวลา ดั่งที่เคยกล่าวไว้ว่า “กิเลสทั้งหลายนั้นยังมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น รัก โลภโกรธ หลง เพราะมันเป็นอาคันตุกะที่จรมา” เราต้องคอยเตือนสติระลึกอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้จิตเข้าไปยึดถือติดอยู่ในอารมณ์เหล่านั้น…

อ่านเพิ่มเติม “บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๒”

คิดไป เขียนไป บทที่ ๒

…คิดไป เขียนไป บทที่ ๒…

…”ความเบื่อกับอยากเป็นของคู่กัน”เมื่อความอยากเกิดขึ้นจิตก็ดิ้นรนขวนขวายหาเหตุและปัจจัยมาสนองตอบความอยากถ้าสนองตอบตัณหาความอยากได้ จิตก็ยินดีถ้าไม่ได้ตามที่ปรารถนา จิตมันก็เกิดปฏิฆะและเมื่อเสพในความอยากจนเต็มที่แล้ว จิตมันก็จะเบื่อในอารมณ์นั้น ความอยากในสิ่งอื่นก็เข้ามาแทนที่ เป็นเช่นนี้เรื่อยมาคือ “อยากๆเบื่อๆแล้วก็เบื่อๆอยาก ๆ” ตามกิเลสตัณหาที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของอารมณ์

อ่านเพิ่มเติม “คิดไป เขียนไป บทที่ ๒”

บอกกล่าว เล่าเรื่อง ปฐมบท

…บอกกล่าว เล่าเรื่อง ปฐมบท…

…อายุพรรษาเพิ่มขึ้นทุกปี จากหลวงพี่เป็นหลวงน้า เป็นหลวงอา เป็นหลวงพ่อเป็นหลวงลุง หลวงปู่ สูงขึ้นทุกปีแต่อายุส่วนภูมิธรรมนั้นคงที่มีแต่ทรงไว้และเสื่อมไปของใหม่พัฒนาขึ้นช้ามากหากินอยู่กับของเก่าๆที่เคยได้มาทบทวนดูแล้วละอายแก่ใจ สูงขึ้นเร็วแต่วัย แต่ภายในพัฒนาช้ามากนับว่าเป็นโอกาสดีของเราที่หลุดออกจากจุดนั้นมาได้ มาใช้ชีวิตอย่างที่เราปรารถนา คืนมาสู่ความเป็นสามัญมีเวลาให้กับชีวิตจิตวิญญาณมากขึ้น ทำเพื่อคนอื่นมามากแล้วต่อไปเป็นการกระทำเพื่อตนเองบ้างไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เราต้องเอาตัวเราให้รอดเสียก่อน จึงจะไปช่วยคนอื่นเขา…

อ่านเพิ่มเติม “บอกกล่าว เล่าเรื่อง ปฐมบท”

คิดไป เขียนไป ปฐมบท

…คิดไป เขียนไป ปฐมบท…

…ปรับโลกเข้าหาธรรม เลือกเฟ้นธรรมที่เหมาะสมกับโลก นำมาใช้กับสิ่งที่กำลังคิดและกิจที่กำลังทำ ประยุกต์ใช้ให้เข้ากันกับปัจจุบันธรรมเพื่อความเจริญก้าวหน้าทั้งในทางโลกและทางธรรมแก่ตนเองและคนรอบกาย สิ่งที่คิดมันจึงไม่ใช่ความวุ่นวายฟุ้งซ่าน แต่เป็นการฝึกจิตให้รู้จักการระลึกนึกคิด รู้จักการพิจารณาเข้าหาเหตุและผล บนพื้นฐานของความเป็นจริง จากสิ่งที่กำลังเป็นอยู่รอบกายทั้งหลาย ที่กำลังดำเนินไป วิเคราะห์ไปยังสิ่งที่ยังไม่มาถึง และสรุปถึงสิ่งที่ได้ผ่านพ้นมาโดยใช้สติและปัญญาที่มีธรรมนั้นมานำความคิด เป็นการฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบันธรรม

อ่านเพิ่มเติม “คิดไป เขียนไป ปฐมบท”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๖

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๖…

…สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นอย่างใจคิด…

…ที่เห็น และเข้าใจ
อาจไม่ใช่ สิ่งที่คิด
เห็นถูก หรือเห็นผิด
ใครตัดสิน ในปัญหา

…ความรู้ ความเข้าใจ
ที่มันได้ เกิดขึ้นมา
โดยธรรม หรืออัตตา
หรือรู้เห็น ตามเป็นจริง

…ความรู้ และเข้าใจ
ที่มีใน สรรพสิ่ง
รู้จริง และเห็นจริง
เกิดจากเหตุ และปัจจัย

…สิ่งรู้ และสิ่งเห็น
สิ่งที่เป็น เกิดขึ้นใหม่
ถูกผิด เป็นอย่างไร
พิสูจน์ได้ โดยหลักธรรม

…ปรับจิต เข้าหาหลัก
โดยรู้จัก จดและจำ
ปรับใจ เข้าหาธรรม
ในการคิด และวิจารณ์

…สงเคราะห์ อนุเคราะห์
ให้มันเหมาะ กับเหตุการณ์
ธรรมะ จะประสาน
ไปในทิศ ทางเดียวกัน

…เป็นเหตุ เป็นปัจจัย
คล้อยตามไป สมานฉันท์
ไม่มี ขัดแย้งกัน
นั้นคือธรรม ที่ถูกทาง

…ปรับจิต เข้าหาธรรม
แล้วน้อมนำ ทุกสิ่งอย่าง
เทียบดู ในแนวทาง
จะรู้เห็น เป็นอย่างไร

…ธรรมะ ทุกหมวดหมู่
สงเคราะห์ดู ให้เข้าใจ
รู้เห็น เป็นเช่นไร
อนุเคราะห์ สงเคราะห์กัน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๔…

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๑๐๐

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๑๐๐…

…คนที่เขาคิดว่าตัวเขาเป็นปราชญ์ เป็นผู้ฉลาดในทางโลก มีความรู้ความสามารถเป็นครูบาอาจารย์ เป็นนักวิชาการทางโลกมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ เป็นทีรู้จักของคนทั่วไปนั้น เมื่อเข้าสู่ทางธรรมต้องถอดวางหัวโขนนั้นให้หมดเสียก่อนเพราะส่วนใหญ่นั้น เมื่อมาศึกษาธรรมะแล้วก็เป็นได้เพียงนักวิจารณ์ธรรมเพราะชื่อเสียงและศักดิ์ศรี อัตตานั้นมันมาบังอยู่ จึงทำให้ไม่รู้สภาวธรรมที่แท้จริง คนฉลาดกับคนมีปัญญานั้นแตกต่างกัน ภาษาโลกและภาษาธรรมนั้นความหมายต่างกัน ความฉลาดและมีปัญญาทางโลกนั้นวัดกันด้วยไอคิวสมอง แต่ความฉลาดและปัญญาในทางธรรมนั้น รู้กันที่ใครจะมีสติและสัมปชัญญะมากกว่ากัน

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๑๐๐”