…รำพึงกวีธรรมในยามเย็น…
…ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ก็คล้ายกับโดดเดี่ยว…
๐ รอนรอน ตะวันลับ
เสียงนกขับ กังวานมา
ใกล้ค่ำ สนธยา
หมู่วิหค บินกลับรัง
๐ เมฆน้อย ลอยเคว้งคว้าง
ลอยไปอย่าง คนสิ้นหวัง
สายลม มีพลัง
พัดพาเมฆ ท่องนภา
๐ ฟ้าครึ้ม เมื่อใกล้ค่ำ
ม่านเมฆดำ ปกคลุมฟ้า
ไม่นาน ฝนคงมา
ชุบชีวิต ให้พืชพันธุ์
๐ โดดเดี่ยว และเดียวดาย
ซุกซ่อนกาย ตามล่าฝัน
ผ่านคืน และผ่านวัน
แสวงหา บนเส้นทาง
๐ โดดเดี่ยว ไม่เปลี่ยวเหงา
อยู่บนเขา ไม่อ้างว้าง
เอาธรรม มานำทาง
สู่จุดหมาย บนทางเดิน
๐ มองโลก และมองธรรม
ก็สุขล้ำ ไม่มีเกิน
พาใจ ให้เพลิดเพลิน
จิตสงบ เมื่อพบธรรม
๐ เอาธรรม นำชีวิต
ปกป้องจิต มิใฝ่ต่ำ
กุศล บุญหนุนนำ
ให้ได้พบ เส้นทางดี
๐ ชีวิต ที่ผ่านมา
ได้เห็นค่า ชีวิตนี้
หลายหลาก และมากมี
สิ่งควรคิด กิจควรทำ
๐ ทางกาย และทางจิต
ทำชีวิต ให้เลิศล้ำ
ความชั่ว ไม่ครอบงำ
มีสติ คุ้มชีวี
๐ สร้างคุณ บุญกุศล
เป็นมงคล บารมี
ต่อเติม เสริมราศี
เจริญธรรม ตลอดไป
๐ รอนรอน ตะวันลับ
เพื่อพบกับ สิ่งแปลกใหม่
ชีวิต ดำเนินไป
บนเส้นทาง แห่งสายธรรม
๐ โดดเดี่ยว บนภูผา
ในเวลา ใกล้จะค่ำ
เมฆฝน ที่ครึ้มดำ
ก็พรั่งพรู ตกลงมา…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๕…